นศ. ม.อ.ปัตตานี ร้องถูก ‘ผู้กองปูเค็ม’ ป่วนกิจกรรม 2 วันต่อเนื่อง
ใส่ร้ายแบ่งแยกดินแดน

นักศึกษา ม.อ.ปัตตานี ถูก “ผู้กองปูเค็ม” ก่อกวนปั่นป่วนกิจกรรมสองวันต่อเนื่อง ซ้ำใส่ร้ายว่าเป็นนักศึกษาแบ่งแยกดินแดน ยืนยันว่าไม่มีแนวคิดแยกดินแดน เพียงแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจฟ้องอาจารย์ ชี้พฤติกรรมของผู้กองปูเค็มเป็นการคุกคามนักศึกษา

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. นายมูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ รองโฆษกพรรคประชาชาติ ได้ไปเยี่ยมกลุ่มเครือข่ายนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ที่ได้ทำกิจกรรมการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ในระหว่างวันที่ 9-10 ต.ค. แต่ถูกนายทหารที่ชื่อว่า ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ “ผู้กองปูเค็ม” และกลุ่มชายฉกรรจ์คล้ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ตามมาก่อกวนปั่นป่วนการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

นายสุวรรณ สวนแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายพิทักษ์สิทธินักศึกษา สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในฐานะนักศึกษาผู้จัดกิจกรรม เปิดใจว่า เมื่อวันพุธที่ 9 ต.ค. คณาจารย์และนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ไปยื่นหนังสือแถลงการณ์ให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี มีความเข้าใจถึงการเคารพสิทธิและเสรีภาพของนักวิชาการในการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการและให้กำลังใจอาจารย์

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ภายหลังจากอาจารย์อสมา มังกรชัย ซึ่งเป็นนักวิชาการ ถูกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ฟ้องกระทำผิดมาตรา 116 ร่วมกับผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายค้าน จึงได้รวมกลุ่มนักศึกษาไปอ่านแถลงการณ์หน้า สภ.เมืองปัตตานี เพื่อแสดงจุดยืนของนักศึกษาว่าไม่เห็นด้วยกับการแจ้งความดำเนินคดีต่ออาจารย์ที่ร่วมเสวนาในเวทีฝ่ายค้านพบประชาชน ที่จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 ก.ย.

“เราเป็นนักศึกษาที่ไม่เห็นด้วยต่อการที่ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงและกลั่นแกล้งประชาชน โดยใช้กลไกอำนาจกระทำต่อประชาชน ส่วนตัวมองว่ากฎหมายเป็นสิ่งที่จะให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย แต่ไม่ใช้เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจกลั่นแกล้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ เช่นอาจารย์ของพวกเรา ซึ่งเป็นนักวิชาการ พวกเราจึงต้องการแสดงพลังเพื่อจะบอกว่าไม่เห็นด้วยต่อการที่ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์” นายสุวรรณ กล่าวซึ่งการทำกิจกรรมดังกล่าว มีนายทหารชื่อว่า ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือที่รู้จักกันว่า ผู้กองปูเค็ม และพรรคพวกคล้ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ไปก่อกวนการทำกิจกรรมของนักศึกษา โดยการส่งเสียงตะโกนพูดแทรกในระหว่างที่กลุ่มอาจารย์และนักศึกษากำลังยืนอ่านแถลงการณ์หน้า สภ.เมืองปัตตานี

นายสุวรรณ มองว่า นั่นเป็นสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยที่เขาสามารถแสดงจุดยืนของตนเองว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อกรณีไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือนักศึกษาถูกปรักปรำจากผู้กองปูเค็มว่าเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน เป็นกลุ่มขบวนการต่างๆ ที่ก่อความไม่สงบในพื้นที่ จึงขอย้ำว่า พวกเราไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นนักศึกษาที่มาจากต่างพื้นที่

“เราแค่มาให้กำลังใจอาจารย์ โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทั้งจากฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายใด แต่เราไปในนามนักศึกษาที่ต้องการให้กำลังใจอาจารย์ที่ถูกใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง และขอสื่อสารไปยังนายทหารคนดังกล่าวว่า เขามีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออกได้ แต่ต้องไม่กระทบและไม่หมิ่นประมาทผู้อื่น ซึ่งสิ่งที่เขาแสดงออกในวันนั้นกระทบต่อนักศึกษาเป็นอย่างมาก”เช่นเดียวกับนายไฟซอล บือราเฮง อดีตนายกสโมสรนักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เล่าว่า ผู้กองปูเค็มได้ตามมาก่อกวนปั่นป่วนกิจกรรมที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาจัดขึ้นสองวันต่อเนื่อง วันแรกคือการไปแสดงพลังบริสุทธิ์ อ่านแถลงการณ์หน้า สภ.เมืองปัตตานี วันที่สองเป็นกิจกรรมการเสวนาเรื่อง “อดีต ปัจจุบัน อนาคต รัฐธรรมนูญไทย” ที่ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งได้เชิญตัวแทนจากพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านร่วมเสวนา

แต่ปรากฏว่ามีแต่ตัวแทนจากพรรคฝ่ายค้านเท่านั้นที่ตอบรับมาร่วมเสวนา ประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ได้รับการตอบรับจากพรรคฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในระหว่างที่ดำเนินการเสวนาอยู่นั้น ผู้กองปูเค็มได้ลุกขึ้นจับไมค์พูดแทรกก่อกวน ในระหว่างที่กำลังมีการเสวนาอย่างไร้มารยาท จนถูกผู้ร่วมงานห้ามปรามให้หยุดแสดงพฤติกรรมกร่าง

นายไฟซอล มองว่า การคิดต่างนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่ควรมีมารยาทในการแสดงออก เพราะในงานเสวนาได้เปิดช่วงเวลาให้แสดงความคิดเห็น แต่เขากลับทำให้เสียบรรยากาศการเสวนา ซึ่งพฤติกรรมของทหารแบบนี้ คือการคุกคามนักศึกษา

“เราถูกคุกคาม เพราะว่าสองวันที่ผ่านมาเราไปให้กำลังใจอาจารย์ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ด้วยความเคารพ ผมอยากจะบอกว่า ประเทศไทยเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเรายึดมั่นในระบอบนี้ ซึ่งเรามีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ฉะนั้น การแสดงความเห็นในเวทีเสวนาเป็นสิ่งที่ไม่ผิดที่เราจะคุยกัน ผมก็อยากเห็นการแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน เพราะอยากให้ประเทศของเราสันติสุข หยุดความขัดแย้งที่มีมา 15 ปี” นายไฟซอล กล่าว

ขณะที่นายฐาปกรณ์ กำจร นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 หนึ่งในแกนนำจัดกิจกรรม เผยว่า ใช้เวลาเตรียมงานกว่า 2 เดือน ใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการจัดกิจกรรม เพราะการที่จะนำเสนอกิจกรรมของพรรคการเมืองใดนั้นอาจจะส่งผลให้เห็นว่าเราไม่เป็นกลางได้ ก็ต้องพยายามให้มีความเป็นกลางที่สุด เราได้เชิญพรรคการเมืองทั้งหมด แต่เป็นไปได้ยาก ไม่ถูกตอบรับจากพรรคฝ่ายรัฐบาล ก่อนจัดงานไม่มีการข่มขู่คุกคามจากใคร แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีคนมาก่อกวนในงาน

“กรณีของผู้กองปูเค็มนั้น ถือเป็นการก่อกวนปั่นป่วนชัดเจนเลย เพราะการกระทำหรือการพูดของผู้กองปูเค็ม ไม่ได้สนใจความรู้สึกของนักศึกษาเลย ไม่ได้สนใจสิ่งที่นักศึกษาจะพูด เขาไม่ให้โอกาสเราพูดด้วยซ้ำ เขาพยายามนำความของตัวเองออกไปมากกว่าที่จะรับฟัง มันบั่นทอนความรู้สึกของพวกเรามาก เราขอโอกาสที่จะพูดบ้าง แต่กลับมีผู้ใหญ่บางคนมาขัดขวางเรา ไม่ให้โอกาสเรา สิ่งที่ผู้กองปูเค็มทำสองวันติดกัน มันคือการลดทอนกำลังใจของพวกเรา” นายฐาปกรณ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน