บิ๊กตู่ บอกคิดถึงชาวศรีสะเกษ ดีใจได้กลับมา แนะอย่าอ่านโซเชียลมาก โต้ไปมาไร้ประโยชน์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดอาคารโรงคลุมชุดตู้อบข้าวเปลือก โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า

วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนไม่ว่าภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ประชาชน รวมทั้งกลุ่มต่างๆ ต้องร่วมมือกัน ถ้าเรามองที่ภาพใหญ่ก็รู้ว่าอนาคตจะเดินไปอย่างไร สิ่งที่ตนพูดคุยกับกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟคือเราต้องปรับปรุงโครงสร้างทางการเกษตรของประเทศตั้งแต่ต้นทุนการผลิต การแปรรูปและนวัตกรรม โดยสร้างผลผลิตใหม่ๆ ออกมา

“ถ้าเราเดินช้าเกินไปจะไม่ทันการณ์ ต้องปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมใหม่ทั้งหมด จะต้องได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจเอกชนมาร่วมลงทุนด้วย จึงเกิดการลงทุนใหม่ในลักษณะรัฐร่วมเอกชนหรือ(พีพีพี) ยืนยันว่าการลงทุนลักษณะดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครทั้งสิ้น วันนี้ผมต้องการพูดให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเรามีความจริงใจอย่างไร รัฐบาลมองและคิดอย่างไร”

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน“วันนี้ส.ส.และส.ว.ก็ต้องช่วยกัน นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนทั้งนั้น ต้องรู้ว่าพรรคนี้คือพรรคไทย พรรคประเทศไทย ทุกคนต้องร่วมมือกันตรงนี้ ในการขับเคลื่อนทุกมิติไปให้ได้ เรื่องทางการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมืองก็ว่ากันไป เป็นประชาธิปไตยก็ว่ากันไป วันนี้สิ่งที่ผมอยากจะขอพวกเราก็คือเราต้องลดความขัดแย้งลดปัญหาที่มีระหว่างกันให้ได้ จะรัก จะชอบ จะเกลียดอย่างไร ก็ขอให้หยุดๆ กันไว้ก่อนบ้าง มันจะได้มีเวลาไปคิดอะไรใหม่ๆ ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ อย่าลืมว่าเรามี 77 จังหวัด”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ดีใจที่ได้เดินทางกลับมาศรีสะเกษอีกครั้ง ถือเป็นการเดินทางมาครั้งที่ 2 ด้วยความคิดถึง ตนก็ถือเป็นลูกอีสานคนหนึ่งเช่นกัน และไม่ว่าจะเป็นคนเผ่าใด ต้องถือว่าทุกคนคือเผ่าไทยทั้งหมด ต้องการให้ทุกคนดูในภาพกว้างทั้งหมดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะถ้ามัวดูแต่ความขัดแย้งก็จะปวดหัวกันไปทั้งหมด สุดท้ายก็จะไปร่วมโพสต์กับเขาไปทั้งหมด ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย อยากฝากไว้ด้วย แต่ก็ห้ามใครไม่ได้

“การหาแหล่งน้ำให้กับประชาชน รัฐพยายามดูแลเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอ่างเก็บน้ำ หรือการสร้างเขื่อน รัฐเองก็พร้อมที่จะทำ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะประชาชนไม่เห็นชอบ นี่คือประชาธิปไตยของเรา แล้วใครบอกว่าวันนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย สำหรับผมไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำ ผมก็ต้องถามพวกท่าน ถ้าไม่เห็นชอบก็ทำไม่ได้ หลายคนก็กล่าวหาว่าผมไม่เป็นประชาธิปไตย เรื่องแบบนี้ผมฟังมาตลอดทุกเรื่อง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น ขอร้องว่าอย่าเพิ่งมาทะเลาะกันเลย”

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขอประชาชนภาคเกษตรกร ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน เพราะเราไปบังคับเทวดาไม่ได้ เพราะธรรมชาติบังคับเรา เราต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร นั่นคือการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีรับสั่งขอให้ทำในสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทำไว้ อะไรที่ยังทำไม่ครบก็ขอให้ทำให้ครบ อันไหนทำได้ให้ทำ สิ่งไหนทำไม่ได้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น เราต้องปรับตัว รวมถึงใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ในการค้นคว้าหาข้อมูล

ขณะนี้กำลังศึกษาโมเดลแก้ปัญหาความยากจนของชาวจีนมาเป็นต้นแบบ ที่สามารถแก้ปัญหาให้กับคน 4-5 ร้อยล้านคนได้ ต้องศึกษาวิธีบริหารจัดการ รวมทั้งสิ่งที่ประชาชนชาวจีนคิด ซึ่งจะมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูงานที่ประเทศจีน โดยจะเชิญให้ทางการจีนมาบรรยายให้ฟังก่อน เนื่องจากบางอย่างไม่เหมือนกัน จะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อนำมาปรับใช้ในไทย

“ขอให้นำสิ่งที่พูดวันนี้ไปสื่อสารกับประชาชน ให้เกิดความเข้าใจ ให้ความร่วมมือสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ผมไปบังคับให้ใครมารักมาชอบทั้งหมดคงไม่ได้ แต่อยากให้มาดูความตั้งใจของผม ความตั้งใจของรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร สิ่งไม่ดีมันก็ต้องมีอยู่บ้างทุกแห่งในโลก แต่ถ้าเรามัวไปจ้องอยู่แค่นั้น จนลืมไปว่าต้องทำอะไร ตรงนี้ถ้ามัวเสียเวลาไปโพสต์ตอบโต้กันไปมาแต่ละวันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร จึงขอว่าอย่าไปอ่านอะไรมากนักในโซเชียล เจ็บตาด้วย บางเรื่องก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา ไปเกลียดไปรักเขาทำไมก็ยังไม่รู้ วันนี้ขอเพียงแต่ความร่วมมือเท่านั้นก็พอ ขอความรักความสามัคคีอย่างเช่นวันนี้”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอความร่วมมือร่วมใจและเสียงปรบมือ เพื่อเป็นการยืนยันว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล พร้อมกล่าวว่า “ขอขอบคุณด้วยใจจริงในเสียงปรบมือทำให้นายกฯ มีกำลังใจ รัฐมนตรีและข้าราชการต่างก็มีกำลังใจ ถ้าเรามัวแต่ว่ากันไปมาก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย ข้าราชการก็ต้องปรับปรุงตัวเองและพัฒนาความรู้

“วันนี้ขอให้ระมัดระวังปัญหาด้านสังคมด้วย โดยเฉพาะเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว ต้องลดความรุนแรงในครอบครัว อย่าตีกัน คนเป็นสามีภรรยาตีกันไม่ได้ จะตีกันทั้งในหรือนอกบ้านไม่ได้ทั้งสิ้น จะไปตีในโรงพยาบาล หรือบนท้องถนนไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้บั่นทอนชื่อเสียงประเทศ บั่นทอนความเชื่อมั่น จึงขอให้ทุกคนยับยั้งชั่งใจ ถ้าจะตีหรือทะเลาะกันให้นึกย้อนหลังของวันแรกที่คบกัน สังคมจะได้เรียบร้อยและปลอดภัย รวมทั้งฝากนักเรียนที่เรียนหนังสือทั้งในและนอกระบบ ให้เน้นตอบโจทก์ความต้องการของตลาด พร้อมสั่งการกระทรวงศึกษาปรับปรุงหลักสูตรให้ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเปิดป้ายโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวและทดสอบระบบการคัดคุณภาพข้าว เยี่ยมชมกิจกรรมการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิทรรศการ Fair Trade ของผู้ค้าที่ไม่หวังผลกำไรตอบแทน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง จังหวัดศรีสะเกษ กิจกรรมการส่งเสริมการปลูกพืชทางเลือก ของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กิจกรรมการดำเนินงานของ Young Smart Famer จังหวัดศรีสะเกษ กิจกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเกษตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน