‘ทวี’ นำ ส.ส. ประชาชาติ ร่วมงานศพ ชรบ.ยะลา ดันแก้ปัญหาภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 8 พ.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และอดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายกราดยิงป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เป็นชาวพุทธ 13 คน และมุสลิม 2 คน จากทั้งหมด 15 คน

สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นมุสลิมได้ประกอบพิธีฝังศพที่กุโบร์เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นพุทธศาสนิกชนได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา โดย พ.ต.อ.ทวี ได้เดินทางพร้อมด้วยนายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ และทีมบริหารพรรค เพื่อให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย

หลังเสร็จสิ้นการสวดพระอภิธรรมศพ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้ได้มาระลึกถึงผู้เสียชีวิตทั้ง 15 ท่าน ซึ่งเป็นประชาชนที่เสียสละออกมาปกป้องหมู่บ้านตนเอง เขาเป็นผู้ไม่มีอาวุธ แต่อาสามารักษาความปลอดภัยบ้านเกิด ถือเป็นเป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริง ประการสำคัญคือเรามาให้กำลังใจผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งมีสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากที่สำรวจมีทั้งหมดมี 49 คน

ในทางพุทธศาสนาการเกิดแก่เจ็บตายนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่การตายจากเหตุการณ์ความไม่สงบนั้น เป็นความรับผิดชอบของสังคม ที่ผ่านมาเรามีบทเรียนเยอะซึ่งไม่ควรจะให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น จึงขอเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องสะเทือนใจ อยากให้นำความรู้ความสามารถทุ่มเทในการนำตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ประเทศไทยโดยเฉพาะสามจังหวัดใต้ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ชุมชนลำพะยา จะต้องได้รับการเยียวยาชุมชน และจิตใจด้วย เช่น ที่วัดพรหมประสิทธิ์ หรือที่บ้านไอร์ปาแย เราเคยเยียวยาประชาชนคนละ 7,500,000 บาท รัฐต้องกล้าดูแล เราเป็นคนไทยด้วยกันจะต้องทำเพื่อประชาชน สำคัญที่สุด จะต้องไม่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก การดำเนินคดีต้องดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะใน 3 จังหวัดภาคใต้คนตายไม่มีสาเหตุ ไม่มีปัญหาขัดแย้งกับใครก็ตายได้

ดังนั้น สาเหตุที่แท้จริงคือรัฐไม่เข้าใจ จึงต้องแก้ไข และทุกคนอยากให้สันติสุข สันติภาพ ความรัก ความสามัคคีเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผู้นับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนน้อย เราก็เข้าใจความรู้สึกของผู้นับถือศาสนาพุทธ บางครั้งก็ตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งการดูแลพื้นที่ต้องดูแลให้มีความเสมอภาค โดยไม่ยึดจากจำนวนคน ต้องให้ความสำคัญกับทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ ปัญหาความไม่สงบเราต้องรีบแก้ไขโดยเร็วไม่ควรปล่อยให้เลือดไหล ข่าวที่ออกไปเหมือนเราเป็นคนป่วยของอาเซียนและเอเชีย การแก้ปัญหาภาคใต้ ต้องไม่มีอคติกัน ต้องยึดถือว่าเราทุกคนเป็นพลเมืองไทยด้วยกัน ซึ่งการแก้ปัญหาในระยะยาวจะต้องนำวาระการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่พอเกิดเหตุแล้วใช้อารมณ์

“เรามีกฎหมาย มีงบประมาณ เราทุ่มเทซื้ออาวุธไปจำนวนมาก ใช้งบประมาณเป็นหมื่นล้าน แต่บางทีเราอาจจะต้องใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา โดยให้ประชาชนทั้งพุทธ และมุสลิม มีส่วนร่วมในการกำหนดชะตาชีวิตตนเอง โดยเฉพาะพี่น้องชาวพุทธ เพราะจู่ๆ เขาก็ถูกฆ่าตาย เราต้องนำปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาของทุกคน ผมเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ปัญหา เพราะหากใช้กำลังความมั่นคงอย่างเดียว เขาเป็นข้าราชการ เขาก็กลับไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ประชาชนยังต้องอยู่ในพื้นที่เพราะเป็นบ้านของเขา”

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องแนวคิดการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หากถอนกำลังทหารออกไป พี่น้องชาวไทยพุทธก็จะอยู่กันอย่างหวาดระแวง แต่เราจะต้องจัดรูปแบบ เช่นในพื้นที่ให้มีกำลังของตำรวจเป็นหลัก และทหารคอยสนับสนุน ส่วนเรื่องกฎหมายพิเศษจะต้องไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น บางครั้งจะจับกุมคนร้ายแต่ไปละเมิดสิทธิสักคน มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมคิดว่ารูปแบบกฎหมายที่เหมาะสมก็คือให้นำกฎหมายพิเศษทั้ง 3 ฉบับมาบูรณาการกันว่าเจ้าหน้าที่จะทำได้แค่ไหน และจะทำอย่างไรหากประชาชนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จะมีช่องทางให้เขาได้เข้าถึงความยุติธรรมตรงนี้หรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน