‘ปิยบุตร’ ไม่ถอย! เดินหน้าเช็กบิล ม.44 งงปิดประชุมเร็ว
หวั่นรัฐบาลเล่นแง่เลื่อนญัตติแก้ รธน.

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวภายหลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาประกาศ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายจะไม่เกิดขึ้น หากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรู้จักคำว่าแพ้ และเราจะสามารถตั้งกมธ.ได้ ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านที่เป็นเสียงข้างน้อย การแสดงออกก็ทำได้เพียงวอล์กเอาต์ คือไม่ร่วมสังฆกรรมกับการบคะแนนใหม่ครั้งนี้ ทั้งทางที่เราอาจจะชนะคะแนนก็ได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในมติสำคัญเช่นนี้จะมีการใช้เสียงเพิ่มเติมที่ไม่ใช่เสียงจากฝ่ายตัวเอง นายปิยบุตร กล่าวว่า ในระยะหลังเข้าใจว่าสื่อมวลชนพยายามจับตาดู ว่าพรรคไหนมีคนโหวตสวนมติพรรค แต่อยากชี้ชวนให้มองมุมกลับคือให้จับตาผู้เสนอ การเสนอให้นี้หากจับได้แล้วนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนก็จะเป็นประโยชน์ต่อการเมืองไทย

จับตาดูว่ามีการเสนอ นัดคุยในสภาหรือโรงแรมไหน เพราะการเสนอแบบนี้เป็นการทำลายระบบรัฐสภาประเทศไทย ยังไม่รวมถึงว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในทุกสัปดาห์ที่มีมติสำคัญๆ ซึ่งก็มาจากโครงสร้างรัฐธรรมนูญแบบนี้ที่ให้ส.ว. 250 คนมาโหวตเลือกนายกฯ ได้ เป็นผลพวงโดยตรงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากสืบทอดอำนาจ

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ผมดูแล้วจะเอาการเมืองไทยย้อนกลับไปจอมพลถนอม ตั้งพรรคสหประชาไทยปีนี้ 2562 แล้วจึงอยากให้สื่อมวลชนจับตาดูว่าใครกันแน่ที่ดึงเมืองไทยถอยหลังเข้าคลอง” นายปิยบุตร กล่าวและว่า ในสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องเข้าสู่คณะกมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุยชน ที่ตนเป็นประธาน เพื่อพิจารณาคำสั่งตามมาตรา 44

ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะอนุกมธ.ศึกษาเอาไว้แล้ว โดยจะครอบคลุมไปถึงพ.ร.บ.บางฉบับที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วย แต่การตรวจสอบจะไม่ได้เน้นไปที่ตัวบุคคล แต่จะดูผลกระทบของมาตรา 44 ที่เกิดขึ้นเป็นหลัก ซึ่งคิดว่าคงไม่ถึงขั้นต้องใช้พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกมธ. เพื่อเรียกบุคคลมาชี้แจงแต่อย่างใด

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า จากมติสภาที่เกิดขึ้นทำให้ตนมีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีผลกระทบต่อญัตติการตั้ง กมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สภาจะพิจารณาในสัปดาห์หน้า เนื่องจากในการประชุมสภาวันนี้ ตนและฝ่ายค้านบางส่วนได้เตรียมข้อมูลที่จะอภิปรายในญัตติดังกล่าวต่อจากเรื่องมาตรา 44 แต่ปรากฏว่า วิปรัฐบาลและรองประธานสภาฯ ได้ปิดประชุมกะทันหัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาสิ้นสุดการประชุมในเวลา 21.00 น. แต่กลับปิดประชุมในเวลา 19.00 น.แทน

จากตรงนี้ทำให้มีข้อสงสัยและน่าคิดว่า เมื่อถึงการพิจารณาญัตติดังกล่าวในสัปดาห์หน้าจะมีเรื่องใดมาแทรกจนทำให้ต้องเลื่อนญัตติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นสังคมก็ควรจะต้องตั้งคำถามต่อฝ่ายรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน