โฆษกรบ.ยืนยัน‘บิ๊กตู่’ติดตามสถานการณ์ โควิด ตลอดเวลา จับตาออกมาตรการรอบ3

โควิด -บิ๊กตู่ / เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ข้อมูลของศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคโควิด-19 ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่แถลงไปในทุกวันจะมีให้ประชาชนติดตามบนเว็บไซต์ของรัฐบาล และเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” รวมไปถึงเฟซบุ๊กของโฆษกรัฐบาลทั้ง 3 คน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นางนฤมล กล่าวอีกว่า ส่วนการแถลงข่าวอยากให้ติดตามจาก 2 ส่วนเท่านั้น คือ 1.ศูนย์ที่กระทรวงสาธารณสุขในเรื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อ และรายละเอียดเกี่ยวกับทางสาธารณสุข และ 2.ศูนย์แถลงข่าวของทำเนียบรัฐบาล

“นายกฯได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำที่มาตรการการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด เช่น มาตรการทางการเงิน มาตรการทางภาษีที่มีการลดภาษีลง ไปจนถึงขยายเวลายื่นภาษีบุคคลธรรมดาออกไป รวมถึงมาตรการอื่นๆอีก เช่น ลดค่าครองชีพ ค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งวันพุธที่ 25 มี.ค.นี้ จะเป็นวันแรกที่เริ่มให้มีการลงทะเบียนคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า และการใช้น้ำปะปา”นางนฤมล กล่าว

“นอกจากนี้ นายกฯ ยังกำชับให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องลงไปดูผลกระทบที่เกิดกับลูกจ้าง เนื่องจากการปิดสถานที่ทำงานหลายส่วนทั้งในกทม. และปริมณฑลด้วย สำหรับลูกหนี้รายย่อย เช่น ลูกหนี้ไฟแนนซ์ ลูกหนี้เช่าซื้อ รัฐบาลมีมาตรการที่จะช่วยเหลือ แต่การช่วยเหลือเยียวยาไม่ได้ออกมาครั้งเดียวจบ ที่ครม.อนุมัติไปครั้งก่อนเป็นเพียงระยะที่ 1 และในวันที่ 25 มี.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการเยียวยาเป็นระยะที่ 2 และจะต้องมีมาตรการเยียวยาในระยะที่ 3 และต่อเนื่องไป หลังจากนั้นแผนที่นายกฯกำชับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ดูแล คือ แผนฟื้นฟูเมื่อเหตุการณ์กกลับเข้าสู่าวะใกล้เคียงปกติ ที่จะมีมาตรการออกมาอีก”นางนฤมล กล่าว

ขณะที่นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ยืนยันมีเงินสดเพียงพอที่จะให้ประชาชนมาเบิกถอนนำไปใช้จ่ายได้ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ผ่านตู้เอทีเอ็มในระบบของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ 54,000 ตู้ ในส่วนของสาขาธนาคารต่างๆ นับรวมทั้งสาขาที่อยู่ในและนอกห้างสรรพสินค้า ปัจจุบันมี 6,800 กว่าแห่ง ซึ่งธนาคารทุกแห่งยังเปิดให้บริการตามปกติ และยังมีช่องทางการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ทางอินเตอร์เน็ต และทางโมบายแบงค์กิ้ง

นายปรีดี กล่าวว่า สำหรับการให้บริการเรื่องสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อผู้ประกอบการและสินเชื่อบุคคลที่ใช้บริการกับธนาคารต่างๆ กว่า 3-4 ล้านราย ยังให้บริการเป็นปกติ แม้การค้าขายจะมีอาการหยุดชะงักไปบ้าง จึงมีมาตรการต่างๆ เช่น การพักชำระเงินต้น หรือการพิจารณาว่าลูกค้ารายใดมีความสามารถในการชำระลดลงไป เราจะช่วยเหลือลูกค้าได้ประมาณ 3 หมื่นราย ซึ่งความช่วยเหลือในส่วนนี้จะต้องมาเรื่อยๆ

“ในเรื่องของสภาพคล่องทางธนาคารพาณิชย์ได้ร่วมมือกับทางภาครัฐ ซึ่งทางภาครัฐได้จัดเตรียมวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารออมสินมาให้ทางธนาคารพาณิชย์เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับลูกค้าในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในส่วนนี้แล้ว นอกจากนี้ภาครัฐยังมี บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันลูกค้าให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินถึง 6 หมื่นล้านบาท”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน