วันที่ 27 มิ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีน.ส.วลัยลักษณ์ ศรีอรุณ รองประธานสปท.คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานการปฏิรูปการปฏิบัติงานในรัฐสภา ของคณะ กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. โดยมีสาระสำคัญการปฏิรูปการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาให้เกิดประสิทธิภาพ และการปฏิรูปสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้เกิดประสิทธิ ภาพในการทำหน้าที่สนับสนุนฝ่ายนิติบัญญัติ

โดยมีข้อเสนอแนะการปฏิรูปที่น่าสนใจอาทิ การยกเลิกการจัดสรรงบ ประมาณการศึกษาดูงานต่างประเทศของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เพราะเป็นการใช้ภาษีประชาชนแฝงไปท่องเที่ยว โดยไม่ได้ไปดูงานจริงๆ การยกเลิกการแจกคอมพิวเตอร์แบบพกพาแก่สมาชิกรัฐสภา การให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคการเมืองเสียงข้างมาก เพื่อไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง การกำหนดบทลงโทษสมาชิกรัฐสภาที่กระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมให้รุนแรงมากขึ้นเช่น มีโทษปรับ 100,000-500,000 บาท นอกจากการว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน

นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง กล่าวว่า ที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลเลือกตั้งตั้งแต่ปี 54-57 มีค่าใช้จ่ายการเดินทางไปดูงานต่างประเทศของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 35 คณะๆละ 5 ล้านบาทต่อปี หรือรวมทั้งหมด 175 ล้านบาทต่อปี ขณะที่การเดินทางไปดูงานต่างประเทศของคณะกรรมาธิ การวุฒิสภา ตกปีละ 75 ล้านบาทต่อปี รวม 2 สภา ใช้งบประมาณดูงานต่างประเทศตกปีละ 250 ล้านบาท

เฉลี่ยแล้วสมาชิกรัฐสภาแต่ละคนมีงบดูงานต่างประเทศคนละ 300,000 บาทต่อปี แต่ละคนจะได้ไปดูงานต่างประเทศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง อย่างมากปีละ 4 ครั้ง ผิดกับสมัยรัฐบาลปัจจุบันตั้งแต่ปี 58-60 รวมไปถึงงบประมาณรายจ่ายปี2561 ไม่มีงบประมาณดูงานต่างประเทศเลย ช่วยประหยัดงบประมาณประเทศได้ 1,000 ล้านบาท แล้วประเทศไทยเจริญน้อยลงหรือไม่ แม้งบดูงานต่างประเทศจะมีความจำเป็น แต่ควรให้งบประมาณเป็นกรณีๆไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า

จากนั้นสมาชิกสปท.หมุนเวียนขึ้นมาอภิปรายแสดงความเห็นรายงานฉบับดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเนื้อหาในรายงาน แต่เนื่องจากมีสมาชิกสปท.อภิปรายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ที่ประชุมสปท.มีภารกิจต้องปิดประชุมเวลา 16.30 น. ทำให้สมาชิกสปท.ไม่สามารถอภิปรายได้ครบทุกคน ดังนั้นนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท. คนที่ 1 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม จึงขอเลื่อนให้สมาชิกไปอภิปรายรายงานฉบับดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 3ก.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน