ฝ่ายค้าน ถามความโปร่งใสการใช้เงิน 1.9 ล้านล้าน พร้อมจี้ตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบ นอกเหนือจากองค์ปกติ ‘บิ๊กตู่’ แจงมีกลไกการตรวจสอบเพียบ ไม่ได้มีแค่ คกก.กลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
เมื่อเวลา 14.55 น. วันที่ 27 พ.ค. ที่รัฐสภา นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย อภิปรายว่า รัฐบาลบริหารเพื่อให้รัฐบาลมีความมั่นคงและอยู่ยาว แต่การกินดีอยู่ดีของประชาชนกลับไม่ได้รับความมั่นคง ทั้งที่เราไม่ใช่ประเทศต้นเหตุของโรคระบาดโควิด-19 และเรามีเวลาเตรียมตัว จากที่รู้ว่าเมืองอู่ฮั่นติดเชื้อไวรัส แต่รัฐบาลกลับประมาทเลินเล่อ ถ้ารัฐบาลมีการบริหารจัดการที่ดีทั้งที่สามารถจำกัดคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้ แต่รัฐบาลไม่เลือกที่จะตรวจในเชิงลึก ฝ่ายค้านและประชาชนไม่มีความมั่นใจ ในการใช้งบประมาณเกร่งว่าจะมีการแบ่งให้พวกพร้องและพรรคการเมืองบางพรรค จึงอยากให้รัฐบาลใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ ประชาชนลืมตาอ้าปากได้
ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายเรื่องการใช้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ว่า นอกจากแผนงานในโครงการกู้เงินต่างๆ ที่ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า นำไปใช้ทำอะไรบ้างแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ เรื่องความโปร่งใสในการใช้งบประมาณที่ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะใช้เพียงแค่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้งบประมาณตามพ.ร.ก.ฉบับนี้ และกลไกปกติในการตรวจสอบ ทั้งที่เป็นการกู้เงินสูงสุดในประวัติศาสตร์ จึงควรมีมาตรการตรวจสอบการทุจริตมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นายชวลิต กล่าวต่อว่า ควรมีองค์กรพิเศษมาตรวจสอบการใช้งบประมาณเงินกู้ครั้งนี้ ในระดับชาติควรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญมาตรวจสอบ เพราะจะให้คณะกรรมาธิการสามัญในสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบอย่างเดียวคงไม่พอ ขณะที่ในระดับพื้นที่ควรให้มีคณะกรรมการภาคประชาชนร่วมตรวจสอบคู่ขนานไปด้วย ไม่รวมกับองค์กรปกติทั้งคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ที่ต้องจับตาการใช้งบประมาณรอบนี้เป็นพิเศษ
จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า เรื่องกลไกการตรวจสอบการใช้งบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงินนั้น ไม่ใช่มีแค่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เท่านั้น ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบได้ แต่กลไกในระบบทั้งสภาฯ สตง. ป.ป.ช. และป.ป.ท.ก็ตรวจสอบได้หมด
“ไม่ใช่แค่คณะกรรมการกลั่นกรองชุดเดียวตรวจสอบได้ ก่อนจะเสนอโครงการอะไรมา ต้องผ่านกลไกในระดับพื้นที่มาก่อน ผ่านคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.)ก่อน ไม่ใช่ใครจะเสนอโครงการอะไรมาก็ได้ เราได้คิดเรื่องต่างๆ เหล่านี้ไว้หมดแล้ว ผมพยายามจะชี้แจงให้กระชับ ถ้าเสียงดังไปก็ต้องขอโทษด้วย”นายกฯ กล่าว