‘บิ๊กตู่’ เผยพรุ่งนี้ ประกาศปลดล็อก กิจการ-กิจกรรม เฟส 3 ย้ำการ์ดอย่าตก ชี้จำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัย

เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน ถึงมาตรการผ่อนปรนมาตรการระยะ 3 ว่า ในพรุ่งนี้ (29 พ.ค.) จะมีการประชุมและจะประกาศมาตรการที่จะผ่อนปรน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงสาธารณสุขหารือร่วมกันแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรถึงจะป้องกันการแพร่ระบาดให้ได้ ยืนยันรัฐบาลสนใจและเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่รัฐบาลกังวลมากที่สุด รัฐบาลได้ใช้งบประมาณในการเยียวยาไปมากพอสมควร และเราก็มีวงเงินจำกัดเท่านี้

ทั้งยังต้องเตรียมวงเงินเพื่อแก้ปัญหาในระยะต่อไปอีก ตอนนี้อยู่ในระยะ 3 เดือน ต่อไปยังต้องใช้เงินอีกจำนวนเท่าไรก็ไม่ทราบ ฉะนั้นต้องรีบหามาตรการที่จะผ่อนปรนให้ได้ แต่ทุกคนต้องการ์ดไม่ตก และต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่รัฐออกมา โดยต้องมีทั้งมาตรการของรัฐและมาตรฐานกลางต่างๆ ออกไปอีก เพื่อรับการเปิดโรงเรียนและสถานที่ต่างๆ โดยแต่ละกิจกรรมและกิจกรรมก็ต้องทำของตัวเองไปด้วยภายใน

“ถ้าเราร่วมมือกันอย่างนี้ก็จะเดินหน้าต่อไปในระยะที่ 4 ซึ่งอยากให้ไปถึงระยะ 4 ให้เร็วที่สุด แต่ต้องระมัดระวังเพราะเหตุการณ์ในต่างประเทศเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น ขอให้เข้าใจว่าการที่รัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อต้องการให้เกิดความปลอดภัย มีส.ส.ในสภาหลายท่านพูดถึงเรื่องนี้ ถือเป็นหลักการที่พอฟังได้

แต่ต้องอธิบายว่าถ้าจะไม่ให้มีคนเจ็บป่วยเลย หรือปล่อยให้ออกไปนอกพื้นที่ มันก็ทำไม่ได้ ก็จะไปติดกันอีก ตรงที่ไม่มีก็กลายเป็นว่ามี อย่างไรก็ตามรัฐบาลพยายามปลดล็อกในระยะ 3 ให้ได้มากที่สุด เว้นแต่บางอย่างที่มีความจำเป็น และมีความเสี่ยงสูงอยู่ก็ต้องเจ็บปวดไปด้วย ผมก็เจ็บปวดเหมือนพวกท่านเพราะมีหน้าที่ดูแลประชาชนโดยรวม ผมก็ไม่สบายใจนักหรอก”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้สิ่งที่ทำมาแล้วไม่เสียหาย ทำอย่างไรประชาชนจะปลอดภัยมากที่สุดเช่นที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการเดินทางเข้ามา ถ้าเราไม่ตรวจสอบหรือมีสถานที่กักกันของรัฐ ปล่อยเสรีให้เข้ามาก็จะเกิดปัญหา ดังนั้นต้องมีการตรวจสอบตัวเลขผู้ติดเชื้อ ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้น ทุกคนก็ต้องยอมรับ แต่อยู่ในกรอบที่รัฐบาลดูแลได้ โดยมีสถานที่ควบคุมกักตัวเพียงพอ

ดังนั้น ต้องค่อยๆ ปล่อยให้คนกลับเข้ามาจาก 100 เป็น 200 ถึง 500 ตนก็เห็นใจคนอยู่ต่างประเทศ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน แต่อย่าลืมว่าต้องทำให้เกิดความปลอดภัยในประเทศด้วย ดังนั้นขอให้เคารพกติกาและอดทนกัน หลังที่ผ่านมาก็อดทนกันมาได้มากพอสมควร

“ผมเห็นใจตรงนี้แต่ถ้าเราปลดทีเดียวก็ยุ่ง เพราะคนที่มาจากต่างประเทศอีกเป็นหมื่นก็กำลังทยอยเข้ามา ซึ่งทั้งหมดก็ต้องเข้าสถานที่กักกัน นี่คือหลักการที่เราต้องร่วมมือกันปฏิบัติ ข้อสำคัญการ์ดอย่าตก อย่าถอดหน้ากาก หรืออยู่ระยะใกล้กันเกินไป อันตราย” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าจะลดข้อกำหนดในการผ่อนปรนตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องมีบ้าง เดี๋ยวเขาจะเขียนมาอีกที กำลังดูอยู่ ได้หารือร่วมกันแล้วทั้งกระทรวงสาธารณสุขและบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวคนใน ศบค.เก็บค่าหัวคิวเจ้าของโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัวของรัฐ ว่า ส่งรายชื่อไปแล้วตามที่มีการร้องเรียนเข้ามา 3-4 คน ตอนนี้กำลังสอบต่อว่าเกี่ยวข้องกับใคร อะไรอย่างไร และต้องลงโทษ แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลไม่ใช่เรื่องของหน่วยงานก็ต้องช่วยกัน ดีแล้วที่แจ้งมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายการให้สัมภาษณ์ ก่อนพล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากสภา ผู้สื่อข่าวทักว่าอย่าลืมเช็กเอาต์สแกนคิวอาร์โค้ด รัฐสภาจริงใจ ซึ่งนายกฯ ตอบกลับว่า ตนเดินทางกลับบ้านเลยไม่ได้ไปไหน ถ้าอยากรู้ก็ให้ตามมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน