กรณีหมู่อาร์ม : คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
กรณีหมู่อาร์ม : คําแถลงชี้แจงของกองทัพบกกับแถลงการณ์ขององค์กรสิทธิมนุษยชน ว่าด้วยเรื่อง หมู่อาร์ม ผู้เปิดโปงปมทุจริตเงินเบี้ยเลี้ยงทหาร มีรายละเอียดและมุมมองที่แตกต่างกันอยู่มาก
อาจเพราะต้นสังกัดของหมู่อาร์มใช้ข้อมูลทางราชการที่บันทึกไว้ อีกทั้งใช้กฎเกณฑ์ทางทหารในการพิจารณาข้อพิพาท ส่วนองค์กรสิทธิมนุษยชนมีมุมมองที่ให้ความสำคัญกับการปกป้อง สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้มีอำนาจน้อยกว่า
ปฏิกิริยาของประชาชนต่อเรื่องนี้ย่อมแตกต่างกันไปตามข้อมูลและทัศนคติที่มีอยู่
ประเด็นใหญ่ของเรื่องนี้คือกองทัพเป็นหน่วยงานที่มีการบริหารจัดการในแบบฉบับของตนเองแตกต่างจากพลเรือน และมีลักษณะเป็นองค์กรปิด ยากที่คนภายนอกจะร่วมตรวจสอบได้
คําแถลงของโฆษกกองทัพยืนยันว่ากองทัพมีนโยบายและให้ความสำคัญกับการให้ความเป็นธรรมต่อกำลังพลในทุกเรื่องทุกปัญหาเดือดร้อน โดยผ่านกลไกตามสายการบังคับบัญชา กฎระเบียบ และกฎหมาย
สิ่งที่กองทัพกังวลว่าจะทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดกรณีหมู่อาร์ม คือการลงโทษผู้หนีทหาร กับการร้องเรียนการทุจริตในหน่วยงาน
พร้อมยืนกรานว่าการหนีราชการเป็นความผิดตามพ.ร.บ.วินัยทหารที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เป็นหลักกฎหมายสากลที่ใช้กับกองทัพทั่วโลก ส่วนการร้องเรียนการทุจริตเป็นเรื่องที่กองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจ
แต่ข้อสังเกตขององค์กรสิทธิมนุษยชนเชื่อมโยงเรื่องทั้งสองว่าอาจเกี่ยวข้องกัน
สุดท้ายแล้วเชื่อว่ากองทัพจะตัดสินไปตามระบบที่มีอยู่ แต่หากต้องการเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนด้วยต้องมีเหตุผลและความชัดเจน
หากคลุมเครือต่อไปอาจส่งผลในเชิงจิตวิทยาต่อนายทหารชั้นผู้น้อยนายอื่นๆ ที่ต้องการร้องเรียนถึง
ความไม่ชอบมาพากล หรือการถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในอนาคต
ที่ผ่านมากองทัพปฏิบัติหน้าที่ด้านสาธารณ ประโยชน์และบรรเทาภัยพิบัติตามนโยบายของรัฐบาล
หลายสมัย แต่ขณะเดียวกันก็เคยเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนในรัฐบาลบางสมัยเช่นกัน
คำสัญญาเรื่องการปฏิรูปกองทัพจะเป็นที่ยอมรับชื่นชมหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับการกระทำ