‘สุทิน’ สับจัดงบทำคนไทยเผชิญ 5 หนี้ ชี้จีดีพีติดลบ 8% แต่รบ.บอกเศรษฐกิจจะโต คาดกลางปี “ประยุทธ์” กู้อีกแน่ ตั้งฉายารอ “นักกู้แห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก”

เมื่อเวลา 21.38 น. วันที่ 3 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายปิดท้ายว่า การอภิปรายในครั้งนี้บรรยากาศดีกว่าทุกๆ ครั้ง ท่านควรภูมิใจ มีกระทบกระทั่งกันบ้างเล็กน้อย แต่ตนมองว่าท่านมีพัฒนาการทางอารมณ์ดีขึ้น แอบลุ้นด้วยว่าตอนกระทบกระทั่งกันก่อนหน้านี้ ก็ลุ้นให้ท่านรอดไปได้ ส่วนพัฒนาการทางปัญญา ตนไม่แน่ใจ ถ้าท่านเปิดใจให้กว้างอยากบอกว่าท่านถูกข้าราชการหลอก และรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลหลอกด้วย หลอกคำโตทำบ้านเมืองเสียหาย ที่ตนพูดไปเพราะหวังดีต่อบ้านเมือง ฝากนายกฯ ว่าอย่าโกรธ

ทั้งนี้ สภาพเศรษฐกิจวันนี้เราลำบาก นายกฯ ก็ยอมรับ โดนโควิดถล่ม ที่ชัดเจนคือ ส.ส.พูดตรงกันหมดว่าจีดีพีเราติดลบ 8% ส่งออกก็ติดลบ แต่รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจไปได้ การจัดงบประมาณครั้งนี้จะมาอวยคงไม่ได้ ที่เราต้องเผชิญวันนี้คือคนตกงาน โรงงานปิด สนามบินยังไม่เปิด นักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามา เศรษฐกิจเจ๊ง คนอยู่ได้ด้วยเงินเยียวยา 5,000 บาท จะพอหรือ ถ้าเงินหมดทำอย่างไรต่อ เดือนต่อไปเงินเยียวยาเกษตรกรหมด การพักชำระหนี้ของธนาคารก็หมด ชีวิตทุกคนจะเข้าสู่ความกดอากาศต่ำ รายจ่ายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่รายได้ไม่มี รัฐไม่เยียวยาขณะที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังอยู่

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ในปี 64 คนไทยจะเผชิญหนี้ 5 ประเภท คือหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 60% ของจีดีพี หนี้ครัวเรือนเพิ่ม 80% หนี้ภาคธุรกิจเจ๊ง หนี้เสียในระบบการเงินเป็นเอ็นพีแอลมากขึ้น และตามมาด้วยหนี้นอกระบบ ในกลางปีนี้เราจะได้เห็นนายกฯ ออก พ.ร.บ.กู้เงินอีกแน่เพราะไม่มีเงินใช้จ่าย และไม่เกิน 1 ปีรัฐบาลนี้จะขอแก้ไขกฎหมายขยายเพดานหนี้ หลังจากนี้หนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้น จากนั้นหนี้ครัวเรือนจะแตะ 90% ในไม่นาน เอ็นพีแอลและดอกเบี้ยนอกระบบจะตามมา และที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือชาวบ้านไม่มีทรัพย์สิน ถูกยึด วันนี้กองบังคับคดีฟ้องบังคับคดียึดที่ชาวบ้านแต่ละวันไม่ธรรมดา

ดังนั้นปี 64 จะเป็นปีเผาจริงและลอยอังคารในปีเดียวกัน นี่คือฐานคิดในการทำงบประมาณ ท่านหวังอะไรในปี 64 และในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น กูรูเศรษฐกิจเตือนว่ามีความสุ่มเสี่ยงต่อฐานะการคลัง วันนี้ถ้าเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าก็ไม่มีเงินคงคลังใช้ หากท่านบอกฐานะการคลังดี ขอถามแบบชาวบ้านว่าทำไมประชาชนเป็นหนี้เยอะ ทำไมเจอโควิดปุ๊บกู้เยียวยาทันทีหากสถานะการคลังดี ดังนั้นปีนี้แย่ ปีหน้าไม่มีความหวัง แล้วจะจัดงบประมาณอย่างไร ขนาดเพื่อนสมาชิกรัฐบาลยังเป็นห่วง

นายสุทิน กล่าวอีกว่า ท่านจัดงบ 3.3 ล้านล้านไม่ตอบโจทย์ แก้ไม่ตรงจุด ท่านบอกเจอแบบนี้กันทั่วโลก ลองดูเวียดนามแก้โควิดได้ดีกว่าเรา ไม่ต้องกู้เงิน เศรษฐกิจโต 4-5% ส่วนเราติดลบ 8% ทั้งที่เวียดนามอยู่หลังเราหลายปี ตอนนี้แซงแล้ว งบ 64 สิ้นหวัง เพราะท่านประมาณการเศรษฐกิจผิดพลาด ในเล่มงบประมาณท่านบอกเศรษฐกิจโต 5% ในปี 64 ทั้งที่จีดีพีติดลบ จะเป็นไปได้หรือ รัฐบาลสื่อสารให้คนเข้าใจผิดหรือเปล่า

“นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอกเศรษฐกิจไทยจะเป็นมังกรบินแต่บินก้นเหวสิไม่ว่า แล้วไม่รู้ว่าเป็นมังกรจริงหรือไม่ จัดงบแบบนี้เศรษฐกิจไม่โต 5% แน่ ตนไม่เชื่อ ตนว่าเป็นแมลงหวี่มากกว่า ไม่ใช่มังกร ส่วนที่บอกจะจัดเก็บรายได้ 2.7 แสนล้านนั้นเรามีความหวังจากไหน รัฐบาลมองตัวเองผิด ถ้าเริ่มคิดผิดจะวางแผนผิด เมื่อประมาณการรายได้ผิด โอกาสเห็นรายได้เข้าเป้ายาก”

นายสุทิน กล่าวต่อว่า การเกษตรที่เป็นหัวใจท่านไม่ลงทุนเรื่องน้ำ ท่านก็ยังทำงบเหมือนเดิม ใช้แค่งบ 6 หมื่นล้าน แต่อยากได้ผลลัพธ์ใหม่ ป่วยการ ท่านต้องคิดใหม่ทำใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ ท่านบอกปี 62 ใช้งบเรื่องน้ำกว่า 5 แสนล้าน ท่านบอกใช้งบเยอะ แต่เป็นเบี้ยหัวแตก สร้างบ่อเล็กบ่อน้อย ลงทุนแบบท่านท่วมเร็วกว่าเดิม แล้งเร็วกว่าเดิม นายกฯ ถูกข้าราชการหลอก ลงทุนเรื่องน้ำใจกล้าหน่อย ทำเป็นเมกะโปรเจกต์ 7 แสนล้านเลย ตนสนับสนุนเต็มที่

ส่วนเรื่องท่องเที่ยวก็ไม่มีหวังจะเกิด แต่ที่ท่านตั้งใจมาก คือทำถนน ซื้ออาวุธ งบจำนวนมากไปลงที่กระทรวงคมนาคมและมหาดไทย สุดท้ายก็เป็นถนนตามท้องถิ่น ไฟกำลังไหม้บ้าน แต่ท่านเอาเงินไปจัดสวน ถนนก็สำคัญสำหรับชาวบ้านแต่ต้องจัดลำความสำคัญ วันนี้ถนนเพียงพอสัญจรไปมาแล้ว ที่แย่สุดคือท่านทำถนนในส่วนไม่จำเป็นหรือรีไซคลิ่ง กินง่าย กำไรงาม เปอร์เซ็นต์เยอะ ฝากกรรมาธิการฯ ขอเปลี่ยนงบทำถนนมาเป็นอุปกรณ์การแพทย์ หรือให้เด็กเรียนหนังสือได้มั้ย

นายสุทิน อภิปรายอีกว่า งบปี 64 นอกจากไม่ตอบโจทย์ยังทุจริต ตนอยากบอกว่าต้องทำอะไรใหม่กับงบประมาณ ต้องปรับการบริหารประเทศใหม่หมด ปีนี้มีคนตั้งฉายาท่านว่า “นักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา” ถ้ากู้อีกปีหน้าตนจะตั้งฉายาท่านว่า “นักกู้แห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก” ทั้งนี้ เวลาบริษัทใหญ่เจอวิกฤตจะล้ม จะเจ๊ง เขาต้องปรับคน บริหารใหม่ วางแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท หาผู้บริหารมาทำสัญญา ตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าถ้าผู้บริหารทำให้บริษัทมีรายได้ ทำกำไร จะต่อสัญญา แต่ถ้าทำไม่ได้ ใช้เงินลงทุนเยอะแต่ยอดขายไม่เข้ามา ก็ไม่ต่อสัญญา นี่คือแผนปฏิรูป ดังนั้นต้องฟื้นฟูกิจการบริษัทประเทศไทยใหม่

วันนี้ถ้าไม่รับก็อย่าโทษกัน วาระสองฝ่ายค้านให้กำลังใจไปทำใหม่ แต่ถ้ายังเป็นสภาพนี้อยู่ ไม่สอดรับสถานการณ์เท่ากับท่านปล้นประชาชน เรารับไม่ได้ ขอให้ไปแก้หน่อยให้ประชาชนมีความหวัง ให้ชาวโลกเกิดความเชื่อมั่น ส่วนผู้บริหารต้องปรับ ครม. ปรับทีมเศรษฐกิจเริ่มจากปรับหัวหน้าทีมก่อนเลย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้เพราะรู้เรื่องเศรษฐกิจ แต่ท่านมาเป็นแต่ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจมันไม่ไหว”

“นอกจากปรับทีมเศรษฐกิจ ผมอยากชวนท่านเข้าสู่การเมืองแบบใหม่ มาประกันคุณภาพทางการเมือง วันนี้ประเทศต้องเข้าสู่ระบบประกันคุณภาพทางการเมือง นายกฯ เป็นมืออาชีพ ต้องรับประกันด้วยผลงาน ให้ประชาชนมีความหวัง ขอให้นายกฯ ลุกขึ้นมาพูดผ่านสภาฯ ว่าถ้าจีดีพีโตไม่ถึง 5% ท่านจะลาออก ถ้าหนี้สาธารณะแตะ 65% ท่านจะลาออก ถ้าหนี้ครัวเรือนแตะ 90% ท่านจะลาออก ถ้าท่านพูดแบบนี้รับรองว่าประชาชนจะลุกขึ้นมาดีอกดีใจ มีความหวังเพราะบริหารแบบมีเป้าหมาย รับประกันด้วยผลงาน ความเชื่อมั่นเกิด”

“ที่ผมบอกจะไม่รับ ผมจะแหกมติยกมือเห็นชอบให้ท่านเลย เพราะนายกฯ ประกันคุณภาพทางการเมือง ที่พูดมาทั้งหมดจะบอกว่าผมพูดบนความหวัง ความทุกข์ยากของประชาชน จะมีปี 65 หรือไม่หากบริหารแบบนี้ จะเป็นจะตายช่างมัน มือฉันเยอะฝ่ายค้านพูดคอแตกก็ไม่สน หรือคิดว่ากูเส้นใหญ่ มีกองทัพหนุนหลัง จะอยู่แบบนี้ แล้วประเทศจะไปอย่างไร ดังนั้นอยากชวนนายกฯ มาประกันคุณภาพกัน” นายสุทิน กล่าว

จากนั้น เวลา 23.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ได้อภิปรายอย่างเป็นประโยชน์ ร่างที่รัฐบาลเสนอในการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบฯ จะเป็นเครื่องมือสำคัญวางรากฐานการพัฒนา แก้ปัญหาประเทศทุกด้าน ดูแลผู้มีรายได้น้อย เสริมสร้างความเข้มแข็งทุกภาคส่วนให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ และแผนการปฏิรูปประเทศ สำหรับข้อคิดเห็นต่างๆ ตนรับได้ทั้งหมด และขอฝากกมธ.วิสามัญฯ นำไปใช้พิจาณาในการตรวจสอบรายละเอียดให้เป็นไปด้วยความรอบคอบยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนตามที่มุ่งหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน