เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ อนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) กล่าวถึงแนวทางการแต่งตั้งผบ.ตร.ว่า ขณะนี้คณะอนุฯได้พิจารณาเสร็จแล้วและจะเสนอให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณาในวันที่ 21 ส.ค.นี้ โดยจะย้ายอำนาจแต่งตั้งจากคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ไปอยู่ที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ซึ่งมีจำนวน 13 คน มีผบ.ตร.เป็นประธาน รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน เป็นผู้พิจารณา โดยจะนำเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นผบ.ตร. ไม่เกิน 3 คน ให้นายกรัฐมนตรีเป็นคนเลือก
นายเสรี กล่าวว่า หากเห็นชอบคนใดคนหนึ่งบุคคลนั้นก็เป็นผบ.ตร. แต่ถ้าไม่เห็นชอบให้ส่งกลับไปคัดเลือกใหม่ หากก.ตร.ยังยืนยันรายชื่อเดิมต้องมีเสียง 2 ใน 3 เพื่อสนับสนุนก็นำรายชื่อเดิมเสนอให้นายกฯ เห็นชอบอีกครั้ง และหากนายกฯ ไม่เห็นชอบอีก จะต้องมีเหตุผลรองรับการคัดค้านการเสนอชื่อ จากนั้นก.ตร. ต้องกลับไปสรรหารายชื่อใหม่ ภายใน 7 วัน
“แนวทางดังกล่าว จะช่วยแก้ปัญหาการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง เนื่องจากไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสนอรายชื่อ เพราะให้นายกฯทำหน้าที่เห็นชอบ รวมทั้งยับยั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมเป็นผบ.ตร.เท่านั้น อีกทั้งยังทำให้การแต่งตั้งผบ.ตร.เป็นระบบมากขึ้น เชื่อว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นอดีตตำรวจ มีวาระการทำงานเพียง 2 ปี จะหวังดีกับสถาบันตำรวจอย่างแท้จริง”นายเสรีกล่าว
