วันที่ 16 ส.ค. นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าตาของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆว่า เดิมมีสปท.มาทีหนึ่งแล้ว คราวนี้มีกรรมการปฏิรูปประเทศเพื่อลงในรายละเอียด หลายคนก็มาจากสภาปฏิรูปฯแล้วก็เข้ามาดูเรื่องเดิมๆ การจะเอาคนเข้ามาทำเรื่องการปฏิรูปได้ดี 1.ต้องเป็นคนรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี 2.ต้องเป็นคนที่เป็นกลาง แค่สองข้อนี้ก็จะเห็นว่าหลายคนจะรู้เรื่องในเรื่องที่ตัวเองกำลังจะทำการปฏิรูปหรือไม่ และคนที่มีความเป็นกลางนั้นมีความเป็นกลางจริงหรือเปล่า บางคนเคยขึ้นเวทีก็มี จึงดูเหมือนอะไรที่ทำออกไปก็คงไม่ได้ทำอย่างคนเป็นกลางโดยเห็นประโยชน์ของประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งจะมีข้อกังขาแน่นอน
และ 3.มาจาก สปท.เยอะ และเมื่อมาจากสปท.เยอะก็จะทำให้มีแต่ความคิดเดิมๆ ไอเดียเดิมๆ ตอน สปท.ก็ยังไม่เห็นปฏิรูปอะไรที่ชัดเจน และอย่าลืมว่าชุดนี้อยู่ยาวถึงห้าปี สามารถทำไปได้เรื่อยๆ ก็นึกภาพไม่ออกเลยว่าเราจะปฏิรูปประเทศไปได้อย่างไร
นายชัยเกษม กล่าวว่า ดูจากชื่อที่ออกมาก็คงต้องมีพรรคพวกและคนที่พรรคพวกเสนอ ดังนั้น การจะพิจารณาว่าคนดีหรือไม่ดี มีความรู้หรือไม่ เป็นกลางและทำเพื่อการปฏิรูปที่ชัดเจนโดยไม่คิดเอาความเป็นส่วนตัวของตนก็คงยาก เพราะบางคนมีเป้าอยู่แล้วตั้งแต่ไปเป่านกหวีด ดังนั้นบางคนไม่เป็นกลางพอที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปได้ดี เช่น บางคนที่บอกว่าคนต่างจังหวัดมีเสียงที่มีคุณค่าน้อยกว่าคนกรุงเทพฯ คนที่มีแนวคิดแบบนี้หรือที่จะทำการปฏิรูปได้ดี
ตนก็ทำใจไว้แล้วในเมื่อมีขั้นตอนที่จะต้องทำก็ทำกันไป ก็เอาใจช่วย และหวังว่าจะมีคนที่กลับตัวเปลี่ยนใจมาทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง หากทำได้อย่างนั้นก็อาจจะมีคุณค่าและประสบความสำเร็จ เพราะก็ต้องยอมรับว่ามีนักวิชาการหลายคนที่มีความสามารถ เพียงแต่ดูภาพรวมแล้วรับยาก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรับเพราะก็ต้องเป็นไปแบบนี้ตามกระบวนการ ก็ขอให้ทำงานเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อเอาความสะใจของตัวเองก็แล้วกัน
