นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เพื่อให้รื้อคดีสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.ปี 2553 มาพิจารณาใหม่ว่า จะเดินทางไปในวันที่ 17 ส.ค. เวลา 10.00 น. โดยหยิบยกคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ยกฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) เมื่อปี 2551 เป็นพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งคดี ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา 86(1) เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและความเป็นมาตรฐานเดียวในการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช. เชื่อว่าเมื่อสังคมได้รับทราบคำพิพากษา และเห็นแนวปฏิบัติของ ป.ป.ช.ในฐานะพนักงานสอบสวน คงเกิดคำถามเดียวกันว่าคนมือเปล่าตายเป็นร้อยกลางเมืองหลวง แต่ไม่รู้จะดำเนินคดีกับใคร เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้อย่างไร ยืนยันว่าตนไม่ได้มาหาเรื่อง แต่มาหาความยุติธรรม ซึ่งที่ผ่านมา ป.ป.ช.ต้องถามตัวเองว่ามีให้หรือไม่
“เราจะไปกันไม่เกิน 4 คน ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย ประชาธิปไตยคืออนาคตของประเทศ ความยุติธรรมคือรากฐานของประชาธิปไตย ถ้าไม่มีความยุติธรรมก็เท่ากับประเทศหาอนาคตไม่ได้ ซึ่งวันหนึ่งต้องมีคนรับผิดชอบต่อเรื่องเหล่านี้”นายณัฐวุฒิ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน