วันที่ 16 ส.ค. นายสมชาย งามวงศ์ชน ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง เปิดเผยถึงการพิจารณาคำร้องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองครั้งที่ 2 หลังจากกระทรวงการคลัง ให้กรมบังคับคดีเริ่มดำเนินมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินบัญชีเงินฝากว่า หลังจากตุลาการเจ้าของสำนวน มีคำสั่งแจ้งให้กระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้อง ส่งคำชี้แจงต่อศาลภายใน 15 วัน ทราบว่าผู้ถูกฟ้องได้ส่งเอกสารคำให้การชี้แจงข้อเท็จจริงต่อองค์คณะ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนครบกำหนด 15 วันแล้ว
โฆษกศาลปกครอง กล่าวว่า จากนั้นองค์คณะจะรวบรวมเอกสารข้อเท็จจริง เพื่อส่งให้ตุลาการผู้แถลงคดีร่วมตรวจดูและทำความเห็นส่วนตน ซึ่งน่าจะใช้เวลาทำความเห็นส่วนตน 2 สัปดาห์ คดีนี้ถือเป็นคดีเร่งด่วนอยู่แล้ว โดยเมื่อทำความเห็นส่วนตนเสนอองค์คณะแล้ว ถ้าองค์คณะคำสั่งยกคำร้องการขอทุเลาของผู้ฟ้อง คำสั่งของศาลปกครองกลางนี้ถือเป็นที่สุด อุทธรณ์ไม่ได้ แต่สามารถยื่นคำร้องได้ใหม่หากเกิดเหตุใหม่ แต่ถ้าศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาอย่างหนึ่งอย่างใด คู่ความที่ไม่เห็นด้วยสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้
เมื่อถามว่าคดีอาญาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะตัดสินวันที่ 25 ส.ค.นี้ จะมีผลต่อการพิจารณาคดีปกครองในศาลปกครองหรือไม่ โฆษกศาลปกครอง กล่าวว่า ถ้าประเด็นในคดีอาญา มีข้อที่เกี่ยวข้องกับประเด็นพิจารณาในคดีปกครองก็หยิบยกมาพิจารณาด้วย ตัวอย่างคดีอาญาการสลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ศาลยกฟ้องนายสมชาย วงศ์สวสดิ์ อดีตนายกฯ และนายตำรวจ แต่ในส่วนคดีปกครอง ที่ศาลปกครองเคยตัดสินให้หน่วยงานรัฐชดใช้ค่าสินไหมกับผู้ชุมนุมที่ได้รับความเสียหายนั้น ก็พิจารณาว่าการกระทำนั้นเกิดจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่
นายนพดล หลาวทอง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งรับผิดชอบคดีปกครอง กล่าวว่า ผู้ฟ้องได้ยื่นเอกสารประกอบคำร้องขอทุเลาการบังคับคำสั่งกระทรวงการคลังและกรมบังคับให้ศาลแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา และศาลยังไม่ได้แจ้งให้เรายื่นเอกสารเพิ่มเติม จึงต้องรอว่าศาลจะแจ้งให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องยื่นเอกสารใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หรือจะเรียกไต่สวนบุคคลใดหรือไม่ หรือศาลได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้วอาจจะแจ้งวันนัดฟังคำสั่งการขอทุเลาต่อไป
