เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ปล้นเต็นท์รถยนต์ที่จ.สงขลา เพื่อนำไปก่อเหตุความรุนแรงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้เตรียมระเบิดและไปก่อเหตุปล้นรถดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่อหังการมาก แต่เจ้าหน้าสามารถจับกุมรถที่ปล้นมาได้เกือบหมด เหลือ 1 คันที่อยู่ระหว่างการยึดรถคืน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การก่อเหตุของกลุ่มดังกล่าว อย่าไปมองว่ามีช่องโหว่ เพราะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นกว้าง ซึ่งพื้นที่ก่อเหตุใครจะไปคิดว่าจะลงมือที่จ.สงขลา แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาทเพราะหลังเกิดเหตุ เราได้สกัดจับ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ กลุ่มเก่า โดยชี้ตัวผู้ต้องหาได้ 4 คน ขณะที่มาตรการการป้องกันความรุนแรง เราเตรียมการได้ดีอยู่แล้วในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จนทำให้ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนมาก่อเหตุที่อ.เทพา จ.สงขลา แทน

“เจ้าหน้าที่ทำทุกอย่างไม่ให้มีการก่อเหตุ ทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่สามารถก่อเหตุได้ หากเจ้าหน้าที่จับกุมไม่ได้ เขาจะไปก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ผมอยากให้ผู้สื่อข่าวชมเชยเจ้าหน้าที่บ้างที่ตั้งใจทำงาน ส่วนผู้ร่วมกระบวนการก่อเหตุทั้งหมดเราจะสอบสวน เพื่อจับกุมตัวให้ได้ต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าคนจ้องก่อเหตุรุนแรง และคิดวิธีการก่อเหตุที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆ เราเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เตรียมรับมือวิธีการพวกนี้ไว้ด้วย เพราะการก่อเหตุใหม่ๆ ครั้งนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และพวกที่ก่อเหตุยังมีตัวตนอยู่ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่

รมช.กลาโหม กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนขออภัยว่าบางพื้นที่มีช่องโหว่ ช่องว่างที่ผู้ก่อเหตุจะหาจังหวะลงมือทำ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามอุดช่องว่างเหล่านี้ แต่ผู้ก่อเหตุก็สามารถทำได้เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จ.สงขลา มีพื้นที่กว้าง

เมื่อถามว่าทำไมกลุ่มผู้ก่อความรุนแรง จึงพลิกแพลงหาวิธีการก่อเหตุ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เขาพยายามหาวิธีการต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ เต็นท์ขายรถมือสองมีอยู่ทั่วไป ดังนั้น เจ้าหน้าต้องเพิ่มความระมัดระวังตรงนี้ด้วย เพราะพล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่าการก่อเหตุเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ รมช.กลาโหม กล่าวว่า เขาพยายามรักษาตัวตนในการเคลื่อนไหว ซึ่งยอมรับว่าคนที่มีอุดมการณ์ผิดๆ และแสวงหาสิ่งสำคัญของตนเองยังมีอยู่ ดังนั้น เราต้องดูแลให้ได้ต่อไป และขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน

“ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ อย่างบีอาร์เอ็นก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเชื่อมโยงกลุ่มที่อยู่นอกวงกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ นายกฯ ได้กำชับไปยังพล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ให้ดูแลเรื่องนี้ เพราะอาจมีคนตกหล่นและอยู่นอกวงการพูดคุย ดังนั้น ต้องเชิญเข้ามาพูดคุยสันติสุข จะมีประโยชน์มากขึ้นในการแก้ปัญหาพื้นที่” พล.อ.อุดมเดช กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน