เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหณกุล รองผบ.ตร. เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง ตัวแทนทุกกองบัญชาการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือมวลชนที่จะมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ผลการประชุม มีข้อสั่งการดังนี้ ให้ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวทุกพื้นที่ ให้จัดทำแผนเผชิญเหตุบริเวณศาลฎีกาฯ ส่วนต่างจังหวัดให้ดูแลพื้นที่หน่วยราชการที่สำคัญ โดยยึดตามแผนกรกฎ 52 เป็นแนวทางปฏบัติและบังคับใช้กฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันว่าไม่มีนโยบายขัดขวางการมาให้กำลังใจ แต่ขอให้ประชาชนและกลุ่มแกนนำ อย่าทำผิดกฎหมาย

รองผบ.ตร. กล่าวว่า ครั้งนี้ใช้กำลังตำรวจเป็นหน่วยงานหลัก โดยจัดกองร้อยควบคุมฝูงชน 24 กองร้อย และห้ามพกพาอาวุธเด็ดขาด ที่ประชุมได้กำชับให้รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ศาลและบริเวณใกล้เคียง ดูแลด้านการจราจรด้วย

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ด้านการข่าวระบุว่าในวันที่ 25 ส.ค.นี้ จะมีมวลชนมาให้กำลังใจมากกว่าทุกครั้ง จากการข่าวพบว่าขยับกันทั้งประเทศ มีการระดมคน ชักชวนกันมา ปากต่อปาก ชวนกันมาจังหวัดละ 10-20 คน ทั้งประเทศมีเพียง 10 จังหวัดเท่านั้นที่ไม่ระดมคนมา ที่เหลือมากันหมด แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มไหน ใช่เสื้อแดงหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่สกัดกั้น สั่งตำรวจทั่วประเทศไปแล้วว่าต้องไม่มีการสกัดกั้นเด็ดขาด

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การเดินทางมาให้กำลังใจต้องมาอย่างถูกกฎหมาย ไม่พกวัตถุอันตราย จะเอาน้ำมันมาคนละแกลลอน ปืนคนละกระบอกคงไม่ได้ จัดรถตู้ รถบัสที่ไม่ถูกกฎหมาย นอกเส้นทางอนุญาตก็ไม่ได้ ให้นั่งรถเมล์ รถไฟ รถสาธารณะมา ถ้าทำผิดกฎหมาย ตำรวจพร้อมดำเนินคดีบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด

ทั้งนี้ ทางศาลได้จัดระเบียบความปลอดภัยของพื้นที่อยู่แล้ว ทราบว่ามีการขยายพื้นที่อนุญาตให้มวลชนมาให้กำลังใจ เพิ่มเติมจากครั้งก่อนๆด้วยซ้ำ แต่ให้อยู่ในพื้นที่จนศาลอ่านคำตัดสินเสร็จเท่านั้น จากนั้นต้องแยกย้ายกลับทันที หากปักหลักในพื้นที่มีความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า แม้ศาลจะตัดสินออกมาในทิศทางใด ตำรวจก็วางมาตรการรองรับทุกทาง ทั้งนี้ ยอมรับว่าขณะนี้ปอท. พบมีกลุ่มแนวร่วม 24 รายกำลังเคลื่อนไหวในโซเชียล ซึ่งกำลังเฝ้าจับตากลุ่มนี้อยู่ แต่ยังไม่พบการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือยุยงปลุกปั่น จึงยังไม่ดำเนินคดีกับผู้ใด ที่ผ่านมาดำเนินคดีกับนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เพียงรายเดียวเท่านั้น

เมื่อถามว่าห่วงกังวลว่ากลุ่มฮาร์ดคอร์จะใช้วิธีรุนแรงในช่วงก่อนและหลังการตัดสินหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยอมรับว่ากังวล ก็เฝ้าจับตาทุกกลุ่ม ล่าสุดมีเหตุปล้นเต็นท์รถหลายคัน ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา และนำไปวางคาร์บอมบ์หลายจุด ก็เป็นเหตุที่ต้องจับตามอง จะมองว่าเป็นสัญญาณก็ได้ แม้เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปล้นรถหลายคันแล้วประกอบระเบิดทันที ผิดสังเกตหรือไม่ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิด ไม่ใช่พฤติกรรมที่เคยพบในพื้นที่ ก่อนหน้านี้คนใน 3 จังหวัดใต้ก็มาก่อเหตุใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน หรือเหตุระเบิดที่รพ.พระมงกุฏเกล้า ก็เคยเกิดมาแล้ว ฉะนั้นต้องระมัดระวังไว้ก่อน ด้านการข่าวยังไม่พบอะไรพิสดาร แต่ก็ไม่ประมาท เตรียมแผนรองรับทุกสถานการณ์

ขณะที่รายงานข่าว แจ้งว่า มีการระดมมวลชนกว่า 3,000 คนเดินทางโดยรถไฟลงที่สถานีรถไฟหลักสี่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน