วันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวก่อนวันที่ 25 ส.ค. ที่นัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อายุ 50 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

และคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 2 และพวก ซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง 3 คน ข้าราชการการเมือง 3 คน และนิติบุคคลกับกรรมการผู้มีอำนาจในนิติบุคคล รวม 28 ราย เป็นจำเลยที่ 1-28 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 มาตรา 4, 9, 10, 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ, ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต สร้างความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 123 และ 123/1

วันนัดฟังคำพิพากษาคดีโครงการจำนำข้าวและระบายข้าววันที่ 25 ส.ค. เวลา 09.00 น. ตำรวจได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลไว้แล้ว จะเปิดให้นำรถเข้าบริเวณศาลเพียงทางเดียว คือทางเข้าหลักศูนย์ราชการฯ บริเวณข้างศาลปกครอง ส่วนทางเข้าอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกั้นทางเพื่อการตรวจสอบ โดยรถข่าวของสื่อมวลชนที่ไม่ใช่รถโมบายถ่ายทอดสดที่จะนำเข้ามาบริเวณศาลต้องแจ้งทะเบียนรถล่วงหน้า โดยส่งแฟ็กซ์มายังหมายเลข 02-143-7814 เพื่อเจ้าหน้าที่ศาลส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พร้อมกับรายชื่อผู้สื่อมวลชนที่ได้ยื่นกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

สำหรับสื่อมวลชนที่ส่งรายชื่อจะเข้าฟังในห้องพิจารณา ขณะนี้รวมประมาณ 70 ราย จะได้เข้าห้องพิจารณา แต่ระหว่างนี้มีรายชื่อเพิ่มเติมแล้วเกินพื้นที่รองรับเพื่อให้สื่อทุกแขนงได้เข้าฟังก็จะพิจารณาจำกัดให้สื่อสำนักละ 1 คนเข้ารับฟัง จากเดิมที่ให้สื่อสำนักละ 2 คน โดยสามารถสอบถามและตรวจสอบข้อมูลแฟ็กซ์ที่โทร.02-142-4420 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21-24 ส.ค. ในช่วงเวลาทำการตั้งแต่ 08.30-16.00 น.

แหล่งข่าวจากศาลยุติธรรมระบุวันดังกล่าวตามที่มีการนัดคู่ความของทั้งสองคดีมาในช่วงเช้า จำเลยทั้งหมดต้องเข้าห้องพิจารณาคดี โดยองค์คณะผู้พิพากษาจะเริ่มอ่านคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 ซึ่งเป็นคดีการระบายข้าวจีทูจี ที่มี นายบุญทรง กับพวกเป็นจำเลยก่อน ส่วนปัญหาที่ว่าคดีระบายข้าวจีทูจีมีจำเลยจำนวนมาก หากวันดังกล่าวมีจำเลยไม่ได้มาฟังคำพิพากษานั้นองค์คณะสามารถจะอ่านคำพิพากษาได้ในวันนั้นเลย เนื่องจากคดีนี้มีจำเลยที่ไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวอยู่ ก็สามารถอ่านคำพิพากษาเฉพาะที่มีตัวได้เลย ส่วนเวลาในการเริ่มอ่านและความยาวของคำพิพากษานั้นไม่สามารถระบุได้เนื่องจากในวันดังกล่าวองค์คณะจะทำคำวินิจฉัยส่วนตนมาและประชุมทำคำพิพากษากลาง ในวันที่อ่านคำพิพากษาเลย

ส่วนปกติหลายคดีส่วนใหญ่จะเลื่อนคดีออกไปหากไม่มีตัวจำเลย แหล่งข่าวระบุเหตุที่ต้องอ่านคำพิพากษาวันนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีจำเลยที่ถูกคุมขังอยู่ ย่อมสามารถอ่านได้เลย และเมื่อมีการอ่านคำพิพากษาในจำเลยที่ถูกคุมขังอยู่แล้วก็ย่อมสามารถอ่านให้จำเลยที่มีตัวมาแสดงได้หมด ส่วนจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษาก็เท่ากับหลบหนี ขั้นตอนก็จะออกหมายจับและปรับนายประกันตามสัญญาประกันที่เคยทำไว้
———-

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน