เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ 611/2553 ที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326

กรณีจำเลยแถลงข่าวทำนองว่า โจทก์ไปราชการที่จ.แม่ฮ่องสอนและคัดค้านการก่อสร้างอาคารศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย เนื่องจากทำให้กระทบการท่องเที่ยวของอ.ปาย และตลอดการให้สัมภาษณ์กล่าวหาโจทก์ทำนองว่าเลี่ยงภาษี ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์ซึ่งเป็นรองนายกฯ และเป็นนักการเมือง มีพฤติกรรมที่ใช้อำนาจแทรกแซงการบริหารงานของศาลยุติธรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการก่อตั้งศาลในที่ดินที่ได้รับอนุญาตและโจทก์มีผลประโยชน์ทับซ้อนแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน โดยใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย

โดยจำเลยให้การปฏิเสธ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 326 จำคุก 4 เดือน ปรับ 8,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้เหลือ 1 ใน 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี อย่างไรก็ตาม จำเลยยื่นอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

ในวันนี้ศาลได้เบิกตัวนายจตุพร ซึ่งถูกคุมขังในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ มาฟังคำพิพากษา โดยมีภรรยาและบุตรชายของนายจตุพร รวมถึงมวลชนคนเสื้อแดงมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบคอยสังเกตการณ์

หลังฟังคำพิพากษา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายจตุพร เปิดเผยว่า ศาลฎีกาได้พิพากษากลับให้จำคุกนายจตุพร 3 เดือน ปรับ 6 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ซึ่งเป็นโทษยืนตามศาลชั้นต้น โดยศาลได้พิพากษาลงโทษในประเด็นที่จำเลยกล่าวหาโจทก์กรณีทำสัญญาเช่าบ้าน 3 ฉบับว่าเป็นพฤติการณ์โกงภาษี เป็นการหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน