เมื่อวันที่ 2 ก.ย.นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองรักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ ทั้งมีความเห็นไม่ปิดกั้น กปปส.ที่จะพัฒนาเป็นพรรคการเมืองในอนาคต และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังให้ความเห็นในเชิงสนับสนุนเผด็จการเปิดตัวว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าเผด็จการประชาธิปไตยว่า รู้สึกหนักใจ เพราะลำพังกติการัฐธรรมนูญก็เปิดโอกาสนายกฯ มาจากคนนอก มีการออกแบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมให้พรรคการเมืองเป็นพรรคเล็ก พรรคน้อย ส.ว.มาจากการสรรหา แต่สามารถลงคะแนนเลือกนายกฯได้ ไม่รวมความได้เปรียบของรัฐบาลรักษาการที่วางทั้งกำลังคน งบประมาณมาเป็นเวลา 3 ปีเศษแล้ว จะเห็นได้ว่า ทั้งกติกา กรรมการ กำลังคน งบประมาณ ฝ่ายประชาธิปไตยเสียเปรียบฝ่ายอำนาจนิยมทุกประตูคงฝ่าชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไปได้ยากอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามในวิกฤตก็มีโอกาส ข้ออ่อนด้อยของอำนาจนิยม คือ โครงสร้างอำนาจที่รวมศูนย์ไว้กับระบบรัฐราชการ ซึ่งย้อนยุคไปไม่ต่ำกว่า 40-50 ปี เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศในยุคโลกาภิวัฒน์ที่โลกมีการแข่งขันสูง 3 ปีเศษที่ผ่านมา ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ อย่างเหลือเชื่อ และจะเป็นอย่างนี้ต่อไปหากระบบเป็นเช่นนี้
นายชวลิต กล่าวอีกว่า จากการทำโพลสำรวจของทุกสำนักในช่วง 3 ปีเศษที่ผ่านมา พบว่าปัญหาที่ประชาชนหนักใจที่สุด คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน และรัฐบาลไม่มีท่าทีว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ ตนเชื่อว่าสุดท้ายปากท้องประชาชนจะเป็นตัวกำหนดว่าประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายหนุนอำนาจนิยมเข้ามาแก้ไขปัญหาที่ประสบอยู่ ฝ่ายประชาธิปไตยที่เชื่อมโยงกับโลกยังมีโอกาสแม้จะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์น้อยนิด
“ผมในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนหนึ่ง ไม่ท้อถอยแม้จะมีความหวังน้อยนิดดังกล่าว ยังเชื่อในอำนาจประชาชน เมื่อประชาชนทุกข์หนัก แลนด์ไสลด์ก็เกิดขึ้นได้ มหัศจรรย์เกิดขึ้นได้เสมอถ้าไม่ท้อถอยกับอุปสรรคที่มีอยู่ โดยมองประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง”นายชวลิต กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน