“บิ๊กตู่” ยกประชาชนทุกคนเป็นครู วอนอย่ารังเกียจกัน อย่าทำลายสิ่งดีๆ จนซ้ำรอยประวัติศาสตร์ไม่ดีอีก ต้องรักษาแผ่นดินไทยให้สงบ กลุ้มใจพูดมากไปก็ถูกไล่ให้ลาออก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่ห้องประชุมปทุมมาศ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานอาชีวะยกกำลังสองและกล่าวปาฐกถาพิเศษ “การขับเคลื่อนนโยบาย อาชีวศึกษายกกำลังสอง” โดยมีนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมผู้บริหารและเด็กอาชีวะให้การต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้โลกหมุนเร็ว การขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ต้องไปด้วยกัน สิ่งที่เป็นอุปสรรคขวากหนาม เราต้องคิดให้เป็นและผ่านไปให้ได้ รัฐบาลมีหน้าที่สร้างโอกาส ทั้งโอกาสที่จะมีงานทำ โอกาสที่บ้านเมืองจะเป็นสุข โอกาสที่ประเทศจะมีความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน

ถ้าทำได้ ประเทศเราจะเข้มแข็ง ไม่ใช่ประเทศที่มีปัญหามาตลอด หรือเป็นประเทศที่ตีกัน หรือประเทศที่มีการทุจริต เราต้องช่วยกัน ไม่มีใครทำได้โดยไม่ศึกษาหรือวางแผน หรือพูดเพียงอย่างเดียว ไม่มีอะไรเริ่มต้นด้วยวันเดียว หรือปีเดียวแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เราต้องสร้างความเจริญเติบโต สิ่งเหล่านี้คือกำลังใจ

“วันนี้ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นที่หนึ่งของอาเซียน แต่โอกาสเหล่านี้จะหายไปด้วยความไม่สงบเรียบร้อย ไม่มีเสถียรภาพ เราต้องช่วยกันคิอ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ดีที่สุด คุ้มค่าประหยัด มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาทุจริต เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อประเทศ เราต้องรวมพลังเดินหน้า จึงขอเป็นยกกำลัง 10 ร่วมกับผมไปข้างหน้า ไม่เช่นนั้นจะไม่ทัน ผมจำเป็นต้องพูดถึงเรื่องความรักสามัคคี”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของพวกเราในการเดินไปวันข้างหน้า รัฐบาลมีหน้าที่สร้างโอกาส ขอให้ทำแต่สิ่งที่ดี ต้องพัฒนาตัวเราทำสิ่งดีๆให้กับประเทศ สิ่งที่เสนอมา รัฐบาลรับไปดำเนินการในระดับของครม.และคณะทำงานต่างๆ สำหรับตน ประชาชนทุกคนคือครูของตน ซึ่งตนเป็นนายกฯ เอาความเดือดร้อนทั้งหลายมาคิดมาทำร่วมกับครม. อย่ารังเกียจกัน เพราะทุกคนคือคนไทยเป็นประชาธิปไตยด้วยกันทุกคน จะว่ากันอย่างไรก็ไปแก้กันตรงโน้น

“หน้าตาผม เหมือนคนนอนไม่หลับ ผมก็เป็นแบบนี้ทุกวัน ใครมาเป็นผมก็จะรู้ พูดมากไป ก็บอกว่าลาออกไป ผมกลุ้มใจจริงๆ สิ่งใดที่ทำไม่ดีก็บอกมา ผมรับฟังทุกท่าน แต่ขอให้มีหลักการ ขอให้ช่วยกันรักษาบ้านเมืองให้เรียบร้อย อดีตคืออดีต ประวัติศาสตร์ดี เอามาทำต่อและชื่นชม ประวัติศาสตร์ไม่ดีก็ทิ้งไป อย่าทำอีก ทุกอย่างมันมีสาเหตุ

ฉะนั้น เพื่ออนาคตของทุกคน พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้มีความสุข ขอให้ว่ากล่าวตักเตือนกันบ้าง สังคมเราเป็นแบบนี้ ครอบครัวของเราต้องรักษาไว้ ถ้าเราไม่รักกันในครอบครัว สังคมก็ไม่รัก แล้วจะอยู่กันต่อไปอย่างไร ขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานตรงนี้ ทำเพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็วจงได้” นายกฯกล่าว

นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า นี่คือความกังวลของตน ซึ่งตนจะไม่กังวลเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้ไม่มีกำลังใจ ตนจะเฉยๆ ให้เป็นเรื่องว่ากันไป เราจะต้องรักกัน รักษาแผ่นดินไทยนี้ให้สงบ มีเสถียรภาพให้ได้ เรื่องอะไรที่ไม่สำคัญ บางทีคนไทยชอบคุยกันแล้วเกิดความคิดหลากหลาย ซึ่งต้องคิดว่ามันควรจะสรุปให้ได้ คุยกันแล้วมาตีกันไม่ได้ ต้องคุยให้ได้ความก้าวหน้า นี่คือสิ่งสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนประเทศ


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน