เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่เคยระบุป.ป.ช.จะพิจารณาชี้มูลความผิดในคดีใหญ่ๆ ในเดือนก.ย.นี้ว่า กำลังเร่งดำเนินการ เมื่อกระบวนการของป.ป.ช.เสร็จจะแจ้งให้ทราบ ขณะนี้การทำงานของป.ป.ช.ค่อนข้างลำบาก ถ้าข้อมูลหลุดไปจะมีกระบวนการชะลอ หรือดึงเรื่อง ทำให้เสียเวลา เจ้าหน้าที่จึงต้องระวัง และหากป.ป.ช.เอ่ยถึงกรณีใดๆ ขึ้นมาว่าจะดำเนินการอย่างนั้นอย่างนี้ อาจจะกระทบต่อสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้อื่นได้
ทั้งนี้ จะพยายามให้แต่ละคดีมีความเคลื่อนไหว อย่างน้อยทุก 2 เดือน เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสำนวนนั้นๆ จะต้องรายงานความคืบหน้าให้องค์คณะทราบ โดยเฉพาะในปี 2561 คาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ปี 2561 เป็นปีเร่งเครื่องการทำงานของป.ป.ช. คาดหวังว่าเรื่องค้างเก่าทั้งหมดก่อนที่ตนเข้ามาน่าจะเสร็จหมด
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการไต่สวนกรณีทุจริตงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัด ที่ปปป.ตร.ส่งเรื่องมาให้ป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนที่มีนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการป.ป.ช.เป็นประธาน พยายามเร่งรัดอยู่ ซึ่งพฤติกรรมการทุจริตน่าจะมีแบบแผนที่คล้ายคลึงกัน กำลังพิจารณาว่าการดำเนินการจากต้นทางในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร หากพยานหลักฐานครบถ้วนปลายทางก็ไม่มีปัญหา จะมาอีกกี่เรื่องก็ไม่มีปัญหา ตอนนี้ขอทำเรื่องต้นทางให้ครบถ้วนก่อน ส่วนคดีเงินทอนวัดที่จ.สงขลา เป็นกรณีที่ป.ป.ช.ไต่สวนอยู่เดิมนั้น พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง เป็นประธานอนุกรรมการ ก็ไต่สวนอยู่เช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน