วันที่ 14 ก.ย.ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังรับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร พ.ศ. 2561-2580 ของนักศึกษาวปอ. ตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ตนเข้ามาก็ทำตามโรดแม็ปที่วางไว้ มีการขับเคลื่อนเป็นระยะ จนกระทั่งมีรัฐธรรมนูญ
นายกฯ กล่าวว่า ตลอด 3 ปีทั้งรัฐบาล คสช. ทำงานมาตลอด ทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ การสร้างความปรองดอง และการปฏิรูป จึงตั้งคณะกรรมการป.ย.ป. ขึ้นมา แต่การทำงานเมื่อยังช้าอยู่ จึงต้องมีสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พีเอ็มดียู) เพื่อขับเคลื่อนให้กิจกรรมเร่งด่วนสำคัญ และอาจจำเป็นต้องใช้กฎหมายมาตรา 44 ซึ่งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ตอนนี้เราทุกคนกำลังนั่งเรือลำใหญ่ไปด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่เรือแป๊ะ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องของงูเข้ามาในบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องความโชคดีหรือไม่โชคดี วันก่อนเขาจับงูเหลือมได้ที่ทำเนียบฯ แสดงว่ารัฐบาลนั้นแย่แล้ว มีตัวเงินตัวทองเป็นร้อยเป็นพันอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เขาน่าจะมองว่าทำเนียบฯ มีความสมบูรณ์เข้มแข็งขึ้น มีหนูเยอะแยะไปหมด แสดงว่าพอมีพอกินกันหมดแล้ว ถือเป็นธรรมชาติของเขา มองให้เป็นเรื่องดีๆ บ้าง วันนี้โหรกันไปโหรกันมาจนเละไปหมด โหรนี้บอกดี โหรนี้บอกไม่ดี ตนต้องทำของตนให้ดีเท่านั้น เรื่องอื่นเป็นแค่ส่วนประกอบ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองการปกครอง เรากำลังจะทำให้ถูกต้อง มียุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป มีโรดแม็ปชัดเจน มีระดับนโยบายทั้งการขับเคลื่อนและปฏิบัติ แต่วันนี้ทั้งหมดกลับมาที่ตัวนายกฯหมด เหมือนกับนายกฯเป็นผบ.ทบ. พอมีเรื่องพลทหารถูกต่อย ถามมาว่านายกฯรู้หรือไม่ แล้วตนจะรู้ไหม รัฐมนตรีก็ไม่รู้ เพราะทั้งหมดทำงานด้วยกระบวนการถึงจะตรวจสอบไม่พบ ไม่มีปัญหาก็จบ แต่คนไทยไม่สนใจเรื่องนี้ สนใจแต่เรื่องกระบวนการทำงาน ไม่เข้าใจระบบราชการ เข้าใจว่าผิดตรงนี้ ไอ้นี่มันรู้หรือยัง ลงโทษหรือยัง สะใจกันอยู่แค่นี้ แบบนี้ไม่ได้ เราต้องทำทั้งสองอย่างเพื่อให้คนเข็ดหลาบและให้เกิดแนวคิดใหม่ เพราะการทุจริตเกิดขึ้นจากการเรียกรับ การเสนอให้
“ใครมาอ้างชื่อผม ไหนบอกมาว่ารู้จักนายกฯ เป็นเพื่อนกับผม ผมรู้จักทุกคนนั่นแหละ แต่ผมไม่รู้จักหน้าเพราะผมทำงานเพื่อคนไทยทุกคน ฉะนั้นใครที่อ้างมาบอกผม มากระซิบผมก็ได้ ผมพร้อมรับทุกเรื่อง แต่บางทีเรื่องที่รับมาก็เร็ว รับจนปวดหัวไปหมด บางเรื่องไม่มีข้อเท็จจริง ไม่รู้ว่าขั้นตอนเป็นมาอย่างไร บอกแค่นายกฯต้องรู้และต้องแก้ ต้องเอาคนนี้ออก คนนี้เป็นไม่ได้ รู้กันจนถึงก้นบึ้งมีหลักฐานหรือไม่ แต่ผมจะหาให้ได้ไอ้พวกคนที่แอบอ้าง อ้างว่านายกฯชอบทานอาหารนี้ เดี๋ยวจะไปจัดอาหารให้นายกฯหน่อย ผมจะบอกว่าผมมีกินอยู่ที่บ้าน ซื้อเองกินเอง มาโม้กับเพื่อนว่าจะซื้อไปฝากนายกฯ บอกว่าฮัลโหลนายกฯเหรอคะ ผมไม่รู้จัดเลย ใครซื้ออะไรมาผมไม่รู้เหมือนกัน เป็นใครก็ไม่รู้ แต่หากจะเชื่อเขาก็ตามใจ” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า เมื่อก่อนมีคนรักตนเยอะ แต่ตอนนี้เพื่อนฝูงตนรังเกียจหมดเลย เพราะตนไม่มีเวลาให้เขา มากคนก็มากเรื่อง แต่ความเป็นเพื่อนและพี่ยังอยู่ ทุกคนพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ตนเชื่อมั่นในครม. รัฐบาลของตน แต่หลายอย่างยังมีปัญหาอยู่ ทุกเรื่องที่พูดจากันตามสื่อโซเชียล ตนจะต้องตรวจสอบทั้งหมด ถ้ามีหลักฐานก็ดำเนินการ หลายอย่างทำไปแล้ว หลายอย่างไม่จำเป็นต้องพูดหรือประชาสัมพันธ์ให้ทราบ เช่น เรื่องคดีทุจริต ต่างประเทศบอกว่าประเทศไทยเป็นขนาดนี้เชียวหรือ เราก็อธิบายไปว่าเป็นเฉพาะบางประเด็นที่เสียในภาพใหญ่ แต่ทั้งหมดกระบวนการยุติธรรมต้องจัดการ ไม่ใช่ใช้แต่มาตรา 44 อย่างเดียว
นายกฯ กล่าวว่า การปฏิรูปการเมือง นักการเมืองต้องปฏิรูปตัวเองด้วย วันนี้มาติติงแต่เรื่องที่รัฐบาลทำ แม้เรื่องยุทธศาสตร์เขาก็บอกว่าไม่เห็นด้วย จะทำอย่างไรก็เป็นหน้าที่ของเขา ถ้าไม่ทำจะเกิดอะไรขึ้น ตนพูดมา 3 ปีแล้ว ทุกวันศุกร์ปีละ 52 ครั้ง มีวันไหนที่หน้าของตนไม่อยู่ในสื่อบ้าง ก็มีแทบทุกวัน ส่วนใหญ่จะเลือกภาพเก๋ๆ ของตนลงสื่อ ไม่ค่อยดี ไม่ค่อยหล่อก็เลือกลงไป ไม่เป็นไรตนไม่รังเกียจ สื่อที่รักของตนทุกคน แต่ตนเป็นคนไม่ค่อยยอมให้มันถูกบิดเบือน เพราะตั้งใจทำงานจริงๆ
“วันนี้สังคมเราแก้ไม่ได้ ชอบดูละครน้ำตาตก น้ำตาไหล อย่างเรื่องรากนครา ที่สร้างแรงบันดาลใจ แต่ละครบางเรื่องมีแต่สาวๆ มีคนใช้ มีตัวร้าย ทั้งตอนพูดแต่ในห้องรับแขก ไม่ได้คืบหน้าไปไหน แต่คนยังติด ขนาดติดไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ดีที่เราเป็นมหาอำนาจทางละคร นอกจากเรื่องรานคราแล้ว ให้ไปดูช่องอื่นบ้าง ผมเจอไม่รู้ว่าช่องอะไร เขาวิเคราะห์ วิจัย มีการทำลายสาธารณสมบัติ ทรัพยากร วิหารโบราณสถาน 4-5 พันปี เขาสงสัยว่าทำไมเกิดแต่เฉพาะคนกลุ่มนี้ เขาวิเคราะห์กันว่าเกิดจากมนุษย์ต่างดาว แสดงว่ามนุษย์ต่างดาวลงมา และไม่อยากให้คนปัจจุบันรู้ว่าความมาเป็นอย่างไร เลยใช้คลื่นสมองบังคับให้คนปัจจุบันรบกัน คนไทยมีคิดอย่างนี้ไหม มีแต่คิดแย่งสมบัติกัน แต่เขาคิดถึงขนาดนี้แล้ว ประเทศไทยคิดตามที่เขาเขียนให้คิด มันไม่ได้ จะต้องมีหลักคิดเป็นของตัวเอง ทุกคนต้องมีสมอง ถ้าไม่ใช้ก็เสียหมด เซลล์สมองก็จะเสื่อม” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้จำไว้ว่าการเป็นนักศึกษา วปอ.ไม่ใช่มาเพื่อสร้างคอนเน็กชั่น แต่ต้องมาสร้างและทำความดีร่วมกัน ขับเคลื่อนประเทศร่วมกัน คนดีไม่ดีรู้อยู่แล้ว ทุกคนรู้หมดใครเป็นอย่างไรใครดีไม่ดี แต่ถ้าเมื่อใดเพื่อนทำไม่ดีก็อย่าทำกับเขา ตักเตือนชักจูงกลับมาให้เป็นคนดี การที่เราจะคบคนมัน เลือกคบคนไม่ได้มีทั้งมีคนดีและคนไม่ดี แต่เราจะทำอย่างไรที่เราจะเติมความรู้ให้คนไม่ดีเหล่านั้นให้มาดีให้ได้ อย่างน้อยไม่ไปดูถูกคนอื่น ต่อให้ตัดหัว มันก็คือเพื่อน ท้ายสุดมันยังไม่ดีขึ้นก็ตัดหางปล่อยวัดไป อย่าให้เขามาใช้คอนเน็กชันเพื่อผลประโยชน์ในวันหน้า
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ชี้มือถามด้วยว่า “ใครทำอย่างนั้นยกมือขึ้น ไม่มี สัญญากับผมแล้ว เป็นคอนเน็กชันกับรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศไปข้างหน้า”
