วันที่ 18 ก.ย. ที่ลานหน้าวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งกับประชาชนที่มาต้อนรับกว่า 1,200 คน ว่า ตนไม่ร้อนแดด แต่ร้อนใจ เพราะรัฐบาลบางทีก็ร้อนใจหลายเรื่อง ต้องทำงานให้สำเร็จ ซึ่งใจตนดีกับทุกคน แม้บางทีพูดจาไม่เข้าหูบ้าง รัฐบาลต้องแบกรับทุกข์ประชาชนทั้งหมดเพื่อแก้ไขให้ได้

นายกฯ กล่าวว่า เมื่อเช้าตนกราบหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์และฟังหลวงพ่อสอนให้มีสติ สมาธิ อดทน ทำงานใจเย็นๆ ปล่อยวาง อย่าแบกรับปัญหาไว้ทั้งหมด จะทำอะไรให้นับหนึ่งหายใจเข้า หายใจออก จะได้เอาออกซิเจนไปช่วยสมองผ่อนคลายความเครียด ตนสัญญาหลวงพ่อจะนับถึง 10 แต่นับถึง 3 ก็หยุดเพราะโมโหก่อนทุกที ตนทำมาสัปดาห์กว่าแล้ว นับ 4 7 8 ซึ่งไม่ได้บอกหวย อย่าไปซื้อหวย ไม่ถูกมาด่าตนอีก ไม่มีใครล็อกได้ ตนจะทำเต็มที่แต่ปัญหาเยอะจริงๆ ในเวลาที่รัฐบาลมีอยู่ แต่ตนไม่หนักใจเพราะมีประชาชนที่น่ารัก

นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนที่มาวันนี้ทำงานหนัก แม้เศรษฐกิจยังไม่ดี แต่รักษาสถานภาพไว้ได้ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ตนไม่โยนความผิดให้ใคร อยากให้ทุกคนมีหลักคิด บ้านเมืองสงบขึ้นหรือไม่ แต่ยังสับสนอลหม่าน ทำมาหากินถูกบ้างผิดบ้าง อิทธิพลบ้าง จะเป็นปัญหาที่วันหน้ากลับมาที่เดิม ถ้าได้คนดีมาก็ดี ได้ไม่ดีมาก็กลับมาวุ่นวายเหมือนเดิม ประชาชนทุกคนคือผู้กำหนดชะตากรรมของประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า หลวงพ่อบอกให้สวดมนต์ทุกวัน ตนสวดทุกวันอยู่แล้ว ไม่ได้สวดให้ตัวเอง แต่สวดให้ประเทศไทยปลอดภัย ให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คงอยู่ ให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข ตนไหว้พระทุกทีขออย่างนี้ ไม่ได้ขอให้เป็นนายกฯ ต่อไปอีกนานๆ อย่างที่คนพูดกันว่าสืบทอดอำนาจ อยากอยู่ ตนอยากทำงานให้สำเร็จ ขอให้การทำงานทุกอย่างไม่มีอุปสรรค หรือมีก็ให้น้อยลง แก้ปัญหาได้ ให้ประชาชนรักสามัคคีกัน อย่าขัดแย้งกัน ถึงจะแก้ทุกปัญหาได้ ไม่มีอะไรแก้ได้หากมีความขัดแย้งกัน


“วันนี้ต้องแก้ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง หรือหารัฐบาล ก็ไปหามา ไม่ใช่ผม ทุกอย่างนายกฯหมด หัวหน้าคสช.หมด วันเลือกตั้งผมก็ไปลงคะแนนเหมือนทุกคน อย่าเลือกใครผิดอีก ระหว่างนี้ผมก็ไปตามโรดแม็ป กฎหมายลูกออกเมื่อไรก็เมื่อนั้น พอประกาศก็นับวันเลือกตั้งไปอีกกี่เดือน ต้องมีกระบวนการเลือกตั้ง กว่าจะเลือกตั้ง นับคะแนน และตั้งรัฐบาลเสร็จ ใช้เวลา 3-5 เดือน กฎหมายมีวิธีการอยู่แล้ว ไม่ใช่ประกาศเลือกตั้งวันนี้ พรุ่งนี้ได้รัฐบาล รัฐธรรมนูญเขียนไว้หมดแล้ว ทำไมต้องให้ผมมาบอกว่าเลือกตั้งวันที่เท่าไร พอผมบอกไปวันนี้วันนั้น แล้วทำไม่ได้ก็ถูกมองว่าสืบทอดอำนาจ ยื้อเอาไว้ ขอให้เชื่อผม ผมพูดขนาดนี้แล้ว พอได้แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีใครไม่ทำผิดกฎหมายแล้วเดือดร้อน หลายคดีเข้าสู่กระบวนการจบแค่นั้น อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์จนเละไปหมด จนทำงานกันไม่ได้ นี่คือการปรองดองกันไม่ได้ ตนอยากฝากแค่นี้ เอาเวลามาคิดสิ่งดีๆ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นบ้านเมืองสงบหรือไม่ มีประท้วงหรือไม่ ถ้าอยากให้มีก็ไปหาคนอื่นมาให้มี แต่ตนไม่ให้มี วันหน้าและทุกรัฐบาลต้องไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้ ต้องรับฟังเรื่องของประชาชนเพื่อนำมาแก้ไข วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยี คอมเม้นท์ กดไลท์กันเยอะแยะ ถ้าสร้างสรรค์ตนไม่ว่า แต่ถ้าด่ากันไปมาขอถามว่าแบบนี้จะปรองดองได้หรือไม่ ด่าแบบไม่มีเหตุผล ตนโกรธเขาไม่ได้เพราะเขายังไม่เรียนรู้

“เปิดมา 50 ข้อความ ด่าผมเหมือนหมู เหมือนหมา อีก 50 ให้กำลังใจ อยู่ไปนานๆ ผมไม่รู้เหมือนกันจะเหลือเท่าไร อะไรจะมากน้อยกว่ากัน แต่ยิ่งอยู่นาน คนไทยขี้เบื่อ เบื่อหน้าผม จำไว้นิทานอีสปมีอยู่ กบน้อยในสระ กบเลือกนาย เลือกให้ถูก หรือจะเลือกนกกระสามาอีก เดี๋ยวสื่อก็พาดหัวอีกว่านายกฯด่าคนโน้นคนนี้ ใครไม่เกี่ยวก็อย่าเดือดร้อน ใครเป็นคนดีอย่าเดือดร้อน นักการเมืองและพรรคดีๆ มีเยอะ วันนี้เราต้องเอาประวัติศาสตร์มาเป็นตัวอย่าง ปัจจุบันกำลังสร้างเสถียรภาพให้ต่างประเทศไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่ใช่มาตีจุดอ่อนกันอยู่แบบนี้ พูดไม่มีเลือกตั้งกันอยู่นั่น มันเสียเวลาหรือไม่ ” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันเดินหน้าตามโรดแม็ปการเลือกตั้ง เราต้องทำเพื่อลูกหลาน ถึงตายก็เอาเงินไปไม่ได้สักบาท ทุกโครงการที่รัฐบาลทำ มีความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ต้องการเงินสักบาทเดียว กลไกข้างล่างต้องทำงาน อย่าให้มีปัญหาอีก และการเลือกตั้ง ขออย่าเลือกคนที่ไม่ดี คนที่คิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเอง แต่จะต้องเลือกคนที่มีจิตสาธารณะ คนที่คิดถึงคนสุพรรณบุรี และจังหวัดอื่น นั่นคือคนที่จะต้องเข้ามาบริหารบ้านเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่รัฐบาลทำทุกวันนี้แสดงถึงความจริงใจว่าวันหน้าเราจะเดินไปอย่างไร และนี่คือการปรองดองสมานฉันท์ ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ด่ากันไปมา ทุกอย่างที่ผิดกฎหมายต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมถึงจะจบ ต้องพิจารณาคดีอย่างครบถ้วน ส่วนจะตัดสินอย่างไรว่าตามกระบวนการ รัฐบาลไม่ได้สั่งการใดๆ เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ทำคงไม่ได้ แต่เมื่อทำกลับโดนด่า กล่าวหารัฐบาลไล่ล่า ปัญหาเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยังต้องลงทุนอยู่ จึงต้องตั้งงบประมาณเพื่อลงทุนทำอะไรต่างๆที่ยังไม่ครบ ขุดลอกคูน้ำทำท่อ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะเอามาโกง มาซื้ออาวุธ มันคนละเรื่องกัน ถ้าเราผลิตเองได้ก็ไม่ต้องไปซื้อเขา มันจำเป็นต้องมี จะมีมากมีน้อยอยู่ที่เรากำหนด ที่ผ่านมามันไม่เคยได้เพราะมันไม่เคยให้แล้วมันเสียหมด มันซื้อเยอะแล้วจะทำอย่างไร ไม่สงสารเขาหรืออย่างไร อุปกรณ์ 40 ปียังเอามาวิ่งอยู่ ถ้าวิ่งไปแล้วตาย จะทำอย่างไร ไม่ห่วงชีวิตเขาหรือ

นายกฯ กล่าวว่า ต่างประเทศก็เป็นแบบนี้ มีนักสิทธิมนุษยชน ประเทศไม่ต้องทำอะไร ประท้วงกันอยู่นั่น ประเทศประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้ ไม่อยากให้เขาออกมาก็ต้องไม่ขัดแย้ง หรือลดความขัดแย้งลง หรือมาชุมนุมตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนด คือชุมนุมโดยสงบ ทุกประเทศก็ใช้กำลังหมด แต่เดี่ยวเขาก็สงบ มาเช้าเย็นกลับ แต่ของเราไม่กลับบ้านกันเลย ภาพพจน์เสีย การลงทุนไม่เกิด อย่าทำแบบนั้น

“ผมไม่ได้กลัวแต่อย่ามาไล่ผม ไล่ยังไงตอนนี้ก็ไม่ไป ผมจะไปตามโรดแม็ป เพราะเข้ามาแล้ว อย่าให้ต้องเข้ามาอีก อย่าให้ต้องใช้กำลังอีก เพราะผมไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก พอได้แล้ว ทุกคนก็เหนื่อย ผมเหนื่อยกว่าหลายเท่า แบกทุกปัญหา หลวงพ่อบอกให้ปล่อยวาง ผมจะปล่อยวางได้หรือไม่ เพราะมันคือปัญหาทั้งหมด ความไม่เข้าใจ ความขัดแย้ง ความคิด ความไม่ปรองดอง ถ้ามีสิ่งเหล่านี้ก็ไปไม่ได้ ด่ากันหยาบคายเยอะเยะไปหมด เด็กๆอ่านแล้วจะรู้สึกอย่างไร คำพูดเหล่านี้ใช้ได้ที่ไหน ด่าแบบเสียหาย ถ้าผมไม่ได้เป็นนายกฯ ด่าแบบนี้มีเรื่องแน่ ดีที่เป็นนายกฯ จึงอดทน” นายกฯ กล่าว


จากนั้นเวลา 11.45น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เดินทางมายังโรงเรียนเกษตรกรชาวนา สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ต.รั้วใหญ่ เพื่อเยี่ยมชมผลการดำเนินงานของโรงเรียนเกษตรกรชาวนาสุพรรณบุรี โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทดลองขับรถเครื่องยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวในแปลงสาธิต โดยมีนายพิชิต เกียรติสมพร นักเรียนเกษตรกรรุ่นที่ 1 เป็นพี่เลี้ยง ทั้งนี้ นายกฯ ได้ชื่นชมนวัตกรรมที่ชาวนาได้ผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องทุ่นแรงและทำให้ผลิตผลมีคุณภาพและปริมาณสูงขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน