เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในต่างประเทศ รวมถึงการเพิกถอนพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางของน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า กระทรวงต่างประเทศยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้พิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางของน.ส.ยิ่งลักษณ์

ขอเรียนว่าการยกเลิกหนังสือเดินทางจะเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่า ด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 23 เกี่ยวกับการเพิกถอนหนังสือเดินทางที่ระบุว่า พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้ เมื่อปรากฏภายหลังว่า (2) ผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นบุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจออกหนังสือเดินทางให้ตาม ข้อ 21 (2) เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้

น.ส.บุษฎี กล่าวต่อว่า เมื่อกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งเรื่องเป็นหนังสือจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายก็จะพิจารณาดำเนินการยกเลิก เมื่อเข้าเงื่อนไข โดยไม่รอช้าและไม่เลือกปฏิบัติ นอกจากนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มในกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรายงานจากกระทรวงต่างประเทศว่าทางการนครดูไบแจ้งว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี รวมถึงกรณีทางการยูเออีทราบว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปดูไบตั้งแต่เมื่อไหร่ ตลอดจนไม่สามารถให้ข้อมูลกรณีที่ฝ่ายความมั่นคงพบร่องรอยน.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้พาสปอร์ตสีแดงที่ประเทศอังกฤษ

เมื่อถามว่า อดีตนายกยิ่งลักษณ์มีพาสปอร์ตสีแดงหรือไม่ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสิทธิมี

ส่วนการประสานตัวขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ในกรณีที่ดูไบและไทยไม่มีสนธิสัญญาในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันนั้น ก็เป็นขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการ

เมื่อถามว่า ทำไมถึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ในประเด็นต่างๆดังกล่าวข้างต้น โฆษกกระทรวงต่างประเทศกล่าวติดตลกว่า ยังไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน