เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 9 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายจุฬา สุขมานพ ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ร่วมแถลงข่าวภายหลังนายอรุณ มิชรา ผอ.ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Organization: ICAO) เข้าพบเพื่อรายงานว่า ไอเคโอ ประกาศปลดธงแดงประเทศไทยว่า วันนี้ถือเป็นวันเกียรติยศ เป็นวันที่ไอเคโอถอดรายชื่อประเทศไทยออกจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อภัยด้านด้านการบินพลเรือน หรือเรียกว่าปลดธงแดงอย่างเป็นทางการ

นายกฯ กล่าวว่า ไอเคโอได้ตรวจสอบและพบข้อบกพร่องกระบวนการการออกใบรับรองของผู้ดำเนินการเดินอากาศ ซึ่งข้อบกพร่องที่เป็นนัยสำคัญถึง 33 ข้อ ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2558 ได้ประกาศติดธงแดงไทยบนเว็บไซต์ เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าไทยยังไม่มีการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนอย่างเพียงพอภายใต้มาตรฐานของไอเคโอ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน ได้ตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน เป็นศูนย์ประสานการแก้ปัญหา ต่อมามอบให้กระทรวงคมนาคม รับผิดชอบแก้ปัญหา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลชุดนี้ได้แก้ปัญหาที่สะสมมานานอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอนและเป็นรูปธรรม บางอย่างต้องใช้เวลา เพราะเป็นเรื่องซับซ้อนมาก จะต้องปฏิรูปมาตรฐานการกำกับดูแล ปฏิรูปองค์กร แยกงานกำกับดูแลมาตรฐานการบินมาตั้งเป็นองค์กรใหม่ คือสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) โดยมีนายจุฬา สุขมานพ เป็นผู้รับผิดชอบ ทำหน้าที่จัดทำมาตรฐานการบินและกำกับดูแลกิจการการบินพลเรือนของประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า จึงทำให้ทั้ง 33 ข้อ มีการเปลี่ยนแปลงนัยสำคัญอยู่ตลอด มีการทบทวนประเมินออกใบรับรองแก่ผู้ดำเนินการการเดินอากาศใหม่ทั้งหมด 28 สายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศ แก้ไขกฎหมายการเดินอากาศใหม่และพัฒนาบุคลากรที่ขาดแคลน ตามเงื่อนไขที่ไทยได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรกับไอเคโอ ทั้งหมดนี้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมทั้งยื่นขอตรวจประเมินใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2560 และไอเคโอได้ส่งคณะผู้ตรวจประเมินมาตรวจประเมินด้านปฏิบัติการการบิน และความเหมาะสม เมื่อวันที่ 20-27 ก.ย.ที่ผ่านมา

นายกฯ กล่าวว่า ไอเคโอมีมติถอดไทยออกจากรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งวันนี้ผู้เกี่ยวข้องได้มารายงานผลการตรวจประเมิน และได้รับการยืนยันว่าไอเคโอมีมติปลดธงแดงอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งน่าภาคภูมิใจ แสดงถึงความเชื่อมั่นของไอเคโอ และนานาประเทศที่มีต่อกพท. ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของการบิน หรือสายการบินของไทย จะบินไปที่ไหนในโลกนี้ที่มีข้อตกลงการบินระหว่างกันก็ย่อมทำได้ ที่สำคัญ สร้างความมั่นใจในการพัฒนามาตรฐานการกำกับดูแลและการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรกำกับดูแล รวมทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน เพื่อก้าวเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคในอนาคตอย่างมั่นใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในนามของนายกฯและครม. ขอขอบคุณทุกหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่แก้ไขปัญหาการบินพลเรือนให้สำเร็จลุล่วงในเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม และกพท. ถือเป็นผู้ทำงานอย่างจริงจังจนเกิดผลสำเร็จขึ้น ทุกคนเสียสละ อย่างไรก็ตาม การทำงานต้องมีคนที่ได้และเสียผลประโยชน์ แต่วันนี้ประเทศไทยถือว่าได้ประโยชน์

นายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณบริษัทสายการบินต่างๆ ที่ร่วมมือและยอมรับในกติกา แม้ว่ายังคงค้างอีก 10 สายการบินจาก 28 สายการบิน โดยจะดำเนินการเสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้ ทั้งหมดจะบินไปต่างประเทศได้ ขณะนี้ก็ร่วมมือระงับการบินต่างประเทศไปก่อน สิ่งที่ต้องทำคือการแก้ปัญหาในองค์กรก่อน โดยประสานกับส่วนผู้ให้บริการ ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกสายการบิน ซึ่งหลายเรื่องต้องปรับปรุงเพิ่มเติม สิ่งที่ปรากฏในวันนี้โดยเฉพาะความร่วมมือจากต่างประเทศ ไม่ว่าสหภาพยุโรป ฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่น ถือเป็นความร่วมมือในระหว่างที่ตนเป็นรัฐบาล ซึ่งน่าภาคภูมิใจ และให้เกียรติกับทุกคน รัฐบาลยินดีสนับสนุนกพท.อย่างเต็มที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน