เมื่อเวลา 8.30 น. วันที่ 17 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ได้นำรถโดยสารประจำทางที่ติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีทิกเก็ต (E-Ticket) และระบบจีพีเอส (GPS) มาจัดแสดงให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับชมและทดลองใช้

โดยระบบระบบอีทิกเก็ตดังกล่าว ขสมก.จะติดตั้งบนรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด 2,600 คัน โดยเบื้องต้นจะติดตั้ง 800 คันก่อน เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลัง ที่จะเริ่มใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้ทดลองการใช้บัตรอีทิกเก็ตบนรถโดยสาร โดยแตะที่เครื่องอ่านบัตร และกล่าวว่า ขอให้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนในการใช้ระบบดังกล่าวว่าแตะบัตรตรงไหน เพราะอาจมีปัญหาการยืนรอคิวแตะบัตร ซึ่งอาจทำให้การจราจรติดขัดและเกิดความล่าช้า จากการต่อคิวรอแตะบัตร

ทั้งนี้ รถโดยสารจะใช้ได้ทั้ง 2 ระบบ ทั้งการจ่ายเงินและใช้บัตร โดยระยะแรกสามารถทำได้เท่านี้ก่อน แต่หลังจากนี้จะพิจารณาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในระยะ 2 กับครม.ต่อไป จากนั้น นายกฯได้พูดคุยกับประชาชนที่มาร่วมสาธิตการใช้งานว่า “อย่าให้ใครมาหลอกล่อว่าจะให้เงิน รัฐบาลนี้ไม่มี ให้ตามข้อเท็จจริง ไม่นั้นก็จะล้มทั้งหมด จึงขออย่าไปเชื่อใครและขอให้ทุกคนทำแต่สิ่งดี ๆ”

จากนั้น อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อมอบผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากผลงานวิจัย 11 ชนิด โดยนายกฯ ได้ทดลองทาครีมรวงข้าว ก่อนกล่าวว่า เราต้องไม่ได้ทำอะไรฉาบฉวย จึงต้องเริ่มจากสารตั้งต้นหรือวัตถุดิบ โดยขอให้ช่วยกันส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ ทั้งนี้ ตนอยากให้มีการนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรวางขายในร้านธงฟ้า จึงขอให้มีการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน