เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า หลังจากตนประกาศยุติการติดตามความคืบหน้าคดีสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.ปี 2553 ตลอดเดือน ต.ค.ที่ผ่านมานั้น จนถึงวันนี้พบว่ายังมีแต่ความเงียบจาก ป.ป.ช.

นายณัฐวุกล่าวว่า ทั้งที่หลายฝ่ายพยายามดำเนินการ เช่น แกนนำ นปช.ไปยื่นหนังสือเรียกร้อง ป.ป.ช.หยิบยกคดีที่ยกคำร้องไปแล้วขึ้นพิจารณาอีกครั้งตามช่องทางกฎหมาย ญาติผู้เสียชีวิตร้องขอต่ออัยการสูงสุดให้ส่งคำวินิจฉัยศาลฎีกาถึงป.ป.ช.เพราะถือเป็นหลักฐานใหม่ กระทั่งอัยการสูงสุดส่งเรื่องไปยังป.ป.ช.กว่า 1 เดือนแล้ว แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่มีคำอธิบายใดๆ ถึงขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนตรงกัน จึงถึงเวลาที่ต้องเดินหน้าเต็มตัวในเรื่องนี้อีกครั้ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์นี้จะให้ตัวแทนไปยื่นหนังสือขอเข้าพบประธาน ป.ป.ช.หรือกรรมการ ป.ป.ช.ผู้ได้รับมอบหมาย เพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องนี้ และหารือแนวทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้ความยุติธรรมปรากฏต่อประชาชนอย่างสิ้นสงสัย

รวมทั้งขอรับสำเนาคำวินิจฉัยที่ป.ป.ช.เคยยกคำร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ เพื่อศึกษาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ ที่ใช้พิจารณา จะได้ทราบว่าอะไรคือหลักฐานเก่า และอะไรบ้างน่าจะเป็นหลักฐานใหม่ ซึ่งเรื่องนี้เราเรียกร้องต่อป.ป.ช.มาตลอดว่าไม่มีเหตุผลที่จะเป็นความลับ ควรเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ

“ผมไม่ต้องการเผชิญหน้า หรือเป็นคู่กรณีกับป.ป.ช. ซึ่งการพูดคุยด้วยเหตุผลอย่างตรงไปตรงมาน่าจะเป็นประโยชน์กว่า ในบางสถานการณ์อาจใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวได้ แต่อยากให้ป.ป.ช.เข้าใจว่าความเงียบงันของกระบวนการยุติธรรม คือการเหยียบย่ำซ้ำเติมผู้สูญเสีย อย่าปล่อยให้สังคมติดหล่มอยู่กับคำถามเดิม ว่า ทำไมคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ป.ป.ช.ลงทุนจ้างทนายฟ้องนายกฯและรองนายกฯ แต่คดี นปช.เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธสงครามเต็มอัตราศึก คนตายเกือบร้อยชีวิต ป.ป.ช.ยกคำร้อง ไม่ฟ้องใครเลย เรื่องไม่ถึงแม้แต่หัวบันไดของสำนักงานอัยการ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
///

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน