เพื่อไทย หนุนขยายเพดาน พรบ.กู้เงินฯ แก้วิกฤตประเทศ แต่ต้องไม่ใช่ “ประยุทธ์” ทำ-ไล่ลาออก หลังทำเศรษฐกิจพัง ประเทศถึงทางตัน

เมื่อวันที่ 20 เม.ย.64 นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารและทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ปีงบประมาณ 63 มีการระบาดของโควิด-19 การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้กว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งสูงอย่างน่าตกใจ คือสูงกว่าร้อยละ 10 ของยอดรวมงบประมาณ แต่ยังโชคดีที่ยังมีวงเงินกู้ตามกรอบของ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะในปีนั้นให้กู้เงินมาเติมยอดขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ 64 ผ่านมาครึ่งปีงบประมาณ การจัดเก็บรายได้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจัดเก็บได้ตามเป้า

ปัญหาที่กำลังจะเริ่มเกิดกับภาวะการคลังคือ รัฐบาลจะไม่สามารถกู้ เพื่อชดเชยการจัดเก็บรายได้ที่ไม่เข้าเป้ารุนแรงแบบที่เคยทำในปีก่อนได้อีก เพราะยอดเงินกู้แทบจะชนเพดานตามกฎหมายแล้ว หวยเลยไปออกที่การลงทุนภาครัฐ แต่คาดว่าโครงการซื้ออาวุธคงไม่ถูกตัดทั้งที่ควรถูกตัดเป็นอันดับแรก การลงทุนภาครัฐมีความสำคัญมากต่อระบบเศรษฐกิจไทย เพราะเป็นเครื่องมือเดียวของรัฐบาลที่จะสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ หากการลงทุนภาครัฐสะดุด ย่อมส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว ปัญหาที่จะตามมาคือสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็จะสูงขึ้นตามจนชนเพดานร้อยละ 60 ซึ่งเป็นเพดานตามกฎหมายของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เป็นตัวชี้วัดถึงภาวะทางการคลังของประเทศเข้าสู่วิกฤตแล้ว

นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะไม่สามารถกู้เงินมาชดเชยการจัดเก็บรายได้ที่ไม่เข้าเป้าได้โดยง่ายอีกต่อไป ส่งผลให้ต้องตัดงบฯลงทุนหรือไม่มีงบฯที่จะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำคือการแก้ไข ประกาศกำหนดสัดส่วนสำคัญตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ให้รัฐบาลสามารถกู้เงินจำนวนมากมากอบกู้สถานการณ์ ซึ่งตนเห็นด้วยที่จะต้องแก้ไขเพื่อนำพาประเทศให้หลุดพ้นวิกฤตนี้ เชื่อว่าภาคนักวิชาการ และภาคธุรกิจก็เห็นด้วยที่จะต้องแก้ไขผ่อนปรนกฎเหล็กที่ใช้ควบคุมวินัยการคลังเมื่อประเทศใกล้สู่ทางตัน

“แต่คนที่แก้ต้องไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นผู้นำพาประเทศเข้าสู่ทางตันนี้อย่างไม่น่าให้อภัย ท่านเป็นผู้นำรัฐบาลที่ใช้เงินงบประมาณไปแล้วกว่า 20 ล้านล้านบาท โดยมาจากยอดเงินกู้จำนวนมหาศาล แต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ มีการกระจายรายได้ที่ดีได้แล้วยังตกต่ำอ่อนแอในแทบทุกด้านอย่างไม่น่าให้อภัย พล.อ.ประยุทธ์อาจเก่งคุมกองทัพ หรืออาจจะเคยเก่งในการรบหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่สถานการณ์ตอนนี้ ท่านไม่ใช่คนที่จะนำพาประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมครั้งนี้อย่างแน่นอน ผมจึงอยากเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกหรือยุบสภา เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกคนที่มีความสามารถมานำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยไม่กลายเป็นรัฐล้มเหลวไปเสียก่อน” นายจักรพงษ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน