เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ถนนเเจ้งวัฒนะ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ มายื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ ดำเนินการพิจารณาคดีที่กล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของ ธนาคารกรุงไทย กับกลุ่มกฤษดามหานคร เเละสำนวนที่กล่าวหาทุจริตการออกกฎหมาย เเปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเเละมือถือ เป็นภาษีสรรพสามิตร ที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวเนื่องจากไม่มีตัวจำเลย

นายชาติพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากพ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ได้เเก้ไขบทบัญญัติให้สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่มีตัวจำเลย (ลับหลัง) ได้ เมื่อออกหมายจับ 3 เดือนเเล้วยังไม่ได้ตัวจำเลยมา ตนในฐานะอัยการคดีพิเศษที่ได้รับมอบหมายจากนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด(อสส.) จึงมายื่นคำร้องต่อศาลดังกล่าว โดยคำร้องดังกล่าวมีความยาว 5-6 หน้า บรรยายถึงเหตุผลในการร้องขอให้พิจารณาคดีจากที่ถูกจำหน่ายไว้ชั่วคราวเนื่องจากมีการเเก้ไขกฎหมายใหม่

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 303 สำนักงานอสส. นายวันชาติ สันติกุญชร โฆษกอสส. แถลงมติรื้อคดีนายทักษิณ ชินวัตรว่า หลังจาก พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 (วิ อม.) ได้เเก้ไขบทบัญญัติให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยมีผลบังคับใช้แล้ว คณะทำงานพิจารณาสำนวนคดี ที่ดำเนินการโดย คตส.และป.ป.ช. ที่มีนายพรศักดิ์ ศรีณรงค์ รองอสส. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ได้ตรวจสอบคดีของอดีตนักการเมืองที่อยู่ในศาลฎีกาฯ พบว่ามีคดีของนายทักษิณ ที่ยื่นฟ้องต่อศาลไว้แล้ว 2 สำนวน คือคดีหมายเลขดำ อม.9/2551 ที่กล่าวหาทุจริตออกกฎหมายแปลงสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต และคดี อม. 3/2555 ที่กล่าวหาร่วมทุจริตการปล่อยกู้ ของธนาคารกรุงไทยฯ ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร

นายวันชาติ กล่าวว่า ทั้งสองคดี ศาลได้สั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากจำเลยหลบหนี โดยคณะทำงานมีความเห็นเสนอต่อ อสส. และอสส.ได้เห็นพ้องกับคณะทำงาน ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวทั้ง 2 สำนวนดังกล่าว พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งดำเนินกระบวนพิจารณาคดีทั้งสองสำนวนต่อไป โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้านายทักษิณ จำลย ตาม วิ อม. มาตรา28 ,69, 70 ซึ่งวันนี้ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องแล้ว หลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร

โฆษกอสส. กล่าวว่า ทั้งนี้ นายทักษิณ สามารถแต่งตั้งทนายเข้าร่วมการพิจารณาในครั้งนี้ได้ ส่วนพยานหลักฐานที่จะไต่สวนนั้นเป็นเรื่องในสำนวนคดี ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตาม วิ อม.ใหม่ ซึ่งไม่ได้พุ่งเป้าว่าจะดำเนินการเฉพาะเจาะจงกับนายทักษิณ ส่วนเรื่องอายุความทางคดี ก็เป็นประเด็นที่ศาลจะพิจารณาต่อไปด้วย ส่วนการติดตามตัวนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีที่ศาลพิพากษาแล้วนั้น ยังไม่มีข้อมูลระบุว่าอยู่ที่ใด

นายวันชาติ กล่าวว่า คดีของนายทักษิณ ถือเป็นคดีเเรกหลังจากมีการเเก้ไขบทบัญญัติของพ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาฯ ให้พิจารณาคดีลับหลังได้ ต้องดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไรเพราะเป็นข้อกฎหมายที่ศาลจะมีอำนาจพิจารณา เเต่การที่อัยการยื่นคำร้องไป เนื่องจากพิจารณาเเล้วเห็นว่าการพิจารณาคดีลับหลังจำเลยไม่ใช่หลักสาระบัญญัติ เเละเห็นว่ากระทำได้ตามกฎหมายจึงยื่นคำร้องไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน