เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่สภาพัฒนาการเมือง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ที่มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ได้เชิญนักการเมืองมาให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นในการจัดแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เป็นวันที่ 3 โดยวันนี้เชิญนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายเอนก กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการได้รับฟังความเห็นจากผู้ที่เชิญมาทั้งหมดแล้ว จะทำแผนปฏิรูป และเมื่อจัดทำแล้วเสร็จจะมีการเปิดรับฟังความเห็นประชาชน แม้ประชาชนอาจรู้สึกเบื่อเพราะให้ความเห็นกับหน่วยงานต่างๆมาแล้วก็ตาม แต่คณะกรรมการจะพยายามนำความเห็นมาเรียบเรียงเพื่อจัดทำเป็นแผน โดยทุกอย่างจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.2561

นายสุวัจน์ กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงว่า ได้ให้ข้อเสนอแนะกับคณะกรรมการใน 6 ประเด็น 1.ต้องสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและระบบเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างบรรยากาศที่จะดึงนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามา 2.ส่งเสริมบทบาทของพรรคการเมืองให้มีความเข็มแข็ง โดยพรรคการเมืองอนาคตควรเป็นพรรคขนาดกลางที่เหมาะสมกับโครงสร้างทางกาเมืองที่เปลี่ยนไปในขณะนี้ เพื่อทำให้การเมืองไม่เกิดเดดล็อก 3.สร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนเป็นโหวตเตอร์ที่มีความเข้มแข็งและมีคุณภาพ เพื่อจะได้มาตัดสินใจในการเลือกผู้แทนที่ดีในขั้นตอนสุดท้าย

4.ร่วมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองให้เกิดขึ้น ให้นักการเมืองมีสปิริตรู้แพ้ รู้ชนะรู้อภัย เหมือนกับต่างประเทศที่จะมีสปิริตยอมรับผิดชอบเมื่อทำผิด 5.แก้ไขปัญหาความขัดแย้งก่อนการเลือกตั้ง ทำอย่างไรจะแก้ความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ เป็นไปได้หรือไม่ที่ทุกพรรคการเมืองจะมุ่งมั่น ตั้งใจร่วมมือแก้ปัญหา เพื่อจะเข้าสู่การเลือกตั้ง และเคารพผลการเลือกตั้ง ไม่สร้างเขื่อนไขที่จะนำไปสู่เดดล็อกทางการเมือง และนำบ้านเมืองกลับสู่ความขัดแย้งอีก และ6.การกระจายอำนาจ ทำอย่างไรที่จะให้ท้องถิ่นสามารถใช้ทรัพยากรในพื้นที่สร้างความมั่งคั่งให้กับท้องถิ่นเอง เช่นอาจให้มีรายได้จากวิสาหกิจชุมชนเพิ่มจากที่มีรายได้จากการจัดเก็บภาษี หรือเพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นมากขึ้นเพื่อให้เขามีศักยภาพในการรองรับโครงการภาครัฐ

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องให้พรรคการเมืองลงสัตยาบันเพื่อยอมรับผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ที่จะแสดงความตั้งใจออกมาก็ได้ หรือถ้ามีเวทีแล้วให้แต่ละพรรค แต่ละคนไปแสดงเจตนาออกมาก็ได้ ก็จะทำให้ประชาชนสบายใจ และเกิดบรรยากาศที่ดีและลดความขัดแย้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน