“จิรายุ” ตั้งฉายา “ประยุทธ์ 5 บาป” ไม่ตรวจสอบทุจริต เย้ยจะรอดูวันลงมติ สมาชิกโหวตไว้วางใจแค่ไหน ซักฟอกจบวันที่ 2 ฝ่ายค้านบี้ “นายกฯ-รมต.’” อยู่แจง

วันที่ 1 ก.ย.64 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 2 โดยเมื่อเวลา 20.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอตั้งฉายา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่าเป็นนายกฯ 5 บาป

โดยบาปที่ 1 ท่านขโมยความสุข หลอกประชาชน บอกจะคืนความสุขแต่หลอนมาถึงปีที่ 8 เพราะผ่านไปแล้ว 7 ปีนายกฯ บริหารงานผิดพลาด เป็นนักกู้แห่งลุ่มเจ้าพระยาอีกแล้วแต่ไม่สามารถทำให้ประเทศพัฒนาสถาพรได้ พอคิดอะไรไม่ออก บอกอะไรไม่ถูกก็ด่ารัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งก็คือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์นั่นแหละ

ส่วนองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ก็หายเพียบ ปกติถ้าไม่มีแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐต้องอยู่กันเพียบ เห็นแต่ของพรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ นายกฯ 28 คนกู้รวมกัน 2.39 ล้านล้านบาท เฉลี่ยคนละ 85,000 ล้านบาทต่อปี ส่วน พล.อ.ประยุทธ์จัดเต็มเหนี่ยว กู้คนเดียวถึง 3.28 ล้านล้านบาท

บาปที่ 2 ท่านมีพฤติกรรมค้าความตายบนคราบน้ำตาของประชาชน ปล่อยให้พวกพ้องทุจริตจนน่ารังเกียจ บาปที่ 3 ท่านพรากลูกพรากเมียผู้อื่นด้วยความตายจากโควิด เป็นบาปที่น่าตกใจ หลายคนต้องสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะวิธีคิดของท่าน ทุกคนหาเตียง หาเส้นหาสายเพื่อซื้อชีวิตตัวเอง เวลาฝ่ายค้านอภิปรายท่านอย่าโกรธ คนเป็นผู้นำต้องอดทนรับฟังแล้วรับเอาสิ่งที่ฝ่ายค้านสะท้อนไปแก้ไขปรับปรุง ถ้าท่านไม่ไหว ท่านก็พัก วันนี้ท่านจะ 70 แล้ว ทำไมไม่พักเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน

นายจิรายุ อภิปรายว่า บาปที่ 4 ท่านโกหกว่าจะต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งแต่สุดท้ายก็อ้างปฏิรูปเพราะท่านอยากอยู่ยาว ซึ่งถ้าท่านจะอยู่ยาวแล้วประเทศเจริญ คนก็คงจะสรรเสริญ แต่ที่ผ่านมาก็มีหลายกรณีไม่ว่าจะเป็นโจ้ เฟอรารี มีทั้งตั๋วภาค ทั้งที่จะปฏิรูปตำรวจต้องมี ค.ตร. แต่แทนที่จะเป็นคณะกรรมการเข้าไปตัดสินการทำหน้าที่ของตำรวจ กลับเข้าไปรับประโยชน์และใช้เส้นสาย นี่คือการปฏิรูปปราสาททรายแบบแหกตาประชาชน แสดงให้เห็นว่าไม่มีการปฏิรูปใดๆ

และบาปที่ 5 มึนมัน มัวในอำนาจปล่อยข้าราชการทั่วทุจริต ซ้ำเติมประชาชนยุคโควิด โดยพรรค พท.ได้ติดตามตรวจสอบทุกกระทรวง สำหรับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรณีทุจริตบ้านเคหะสุขประชา กระทรวงคมนาคม กรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสุดท้ายคือการดีแต่พูด ดีแต่คุยโม้โอ้อวดว่าตรวจสอบทุจริต ทั้งนี้ วันที่ 4 ก.ย.นี้ตนจะดูว่าสมาชิกจะโหวตให้นายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมากน้อยแค่ไหน

ต่อมาเวลา 20.50 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลุกขึ้นชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ได้ละเลยประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเคหะแห่งชาติ และทำตามมติ ครม.ที่ต้องสร้างที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติและคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติได้ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้ทำตามมติครม.และกฎหมายทุกฉบับ โดยได้ทำโครงการนำร่อง 500 กว่าหลังที่เป็นไปตามมาตรฐานของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม

ยอมรับว่าในวันที่ตนเข้าดำรงตำแหน่งการเคหะมีปัญหาจริงๆ ทั้งเรื่องธรรมาภิบาลความโปร่งใส ซึ่งอดีตผู้บริหารก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาตามผู้ตรวจการแผ่นดิน และยังต้องแบกหนี้ไว้กว่า 20,000 ล้านบาท รวมถึงมีคดีความที่ต้องทำ แต่สิ่งที่สำคัญคือคะแนนความโปร่งใสเรื่องการป้องกันการทุจริตของการเคหะแห่งชาติในปีนี้ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน เพราะได้ทำตามตามที่นายกฯ ได้สั่งการ ทั้งนี้ ในเรื่องทุจริตของการเคหะแห่งชาติ ทั้งหมดที่มีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็จะไปตรวจสอบให้ครบตามที่ท่านปรารถนา

จากนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้านได้แจ้งว่า ผู้อภิปรายของฝ่ายค้านในวันนี้หมดลงแล้ว และจากการอภิปราย 2 วัน ฝ่ายค้านใช้เวลาไป 22 ชั่วโมงเศษ โดยในวันที่ 2 ก.ย.จะใช้เวลาอภิปรายอีก 10 ชั่วโมง และต่อในวันที่ 3 ก.ย.อีก 6-7 ชั่วโมง ยืนยันว่าจะอภิปรายเสร็จสิ้นอย่างแน่นอน แต่ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย เข้าร่วมรับฟังด้วย เพราะที่ผ่านไม่ค่อยอยู่ฟังกัน พวกท่านอยู่มา 8 ปีแต่เราอภิปรายแค่ 4 วัน ก็ขอให้อยู่ฟังด้วย จากนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ได้สั่งพักการประชุมในเวลา 21.08 น. และนัดประชุมใหม่ในวันที่ 2 ก.ย. เวลา 09.00 น.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน