เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า ตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น การตรวจพบอาวุธสงคราม ในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา การชุมนุมเรียกร้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะต่างๆ รวมถึงการวิ่งเพื่อการกุศลของ ตูน บอดี้สแลม ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว อาจมีบุคคลหลายคนให้ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยพาดพิงกล่าวร้าย กล่าวเท็จ บิดเบือน ก่อกระแสยุยงปลุกปั่น ให้สังคมและคนทั่วไปเข้าใจผิด

พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และศูนย์ติดตามประเมินผลวิเคราะห์ข้อมูล ของ คสช. ตรวจสอบพบว่าเรื่องการตรวจพบอาวุธสงคราม มีการบิดเบือนข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้สร้างเรื่องที่เรียกว่า การจัดฉาก และมีผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับการซัดทอด คสช.ได้ดำเนินการต่อกลุ่มขบวนการดังกล่าว คือ นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร ถูกเรียกตัวมาเพื่อสอบสวน ซักถามในห้วงเวลาตามอำนาจหน้าที่ของกรอบกฎหมาย เมื่อพบว่าไม่มีการเกี่ยวข้องหรือ เชื่อมโยง ได้ส่งตัวกลับไป

พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ถูกพาดพิง มีความเชื่อมโยงและมีหลักฐานพยาน ฝ่ายกฎหมายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ปัจจุบันศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 5 คน และหนึ่งในนั้น คือ พล.ท.มนัส เปาริก ได้เข้ามอบตัวและคสช.ได้ให้โอกาสประกันตัว เพื่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ฝ่ายกฎหมายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหากระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จะเห็นว่า คสช.ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดกฎหมายโดยผ่านกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้ดำเนินการด้วยความรู้สึกหรือกลั่นแกล้ง แต่ดำเนินการภายใต้หลักฐาน ข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมต่อทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือกลั่นแกล้ง รังแกใดๆ

ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า คสช.ไม่เคยปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น แต่ผู้แสดงความคิดเห็นต้องรับผิดชอบตนเอง ถ้ากระทำความผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ และจากนี้อาจมีผู้กระทำผิดที่ต้องถูกร้องทุกข์กล่าวโทษอีกจำนวนหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน