เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถูกตรวจสอบเรื่องนาฬิกา และแหวนเพชร มูลค่าหลักล้าน ว่าจะกี่ล้านก็ไปว่ากัน ประเด็นอยู่ที่ราคาสูง และได้มาอย่างไร ถ้าเป็นคนธรรมดาไม่มีตำแหน่งบริหารบ้านเมือง มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญก็ไม่น่าเป็นเรื่องสำคัญอะไร แต่บังเอิญท่านมีตำแหน่งถึงรองนายกฯ ดูแลฝ่ายความมั่นคง และเป็นผู้ที่นายกฯ เกรงใจที่สุดในฐานะ”พี่ใหญ่” ก็ต้องถามว่าท่านจะไปตำหนิคนตรวจสอบท่านได้หรือไม่
“ผมเห็นว่าเป็นสิทธิโดยชอบของคนที่มีหน้าที่ หรือแม้แต่ไม่มีหน้าที่หากเพียงประชาชนสงสัย ท่านก็ต้องตอบคำถามแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจว่าได้มาอย่างไร ถ้าคำตอบนั้นเป็นที่พอใจเพราะสมเหตุสมผลมันก็จบ แต่เมื่อท่านไม่ตอบ โดยบอกว่าจะไปตอบกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เอง ทั้งที่ยังไม่มีหนังสือเป็นทางการมาถึงท่านและหลังจากท่านพูด ป.ป.ช.ก็มีหนังสือมาถามท่าน ที่สำคัญประธาน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นที่ทราบทั่วไปว่าเคยเป็นลูกน้องสายตรงของท่าน เคยเป็นรองเลขาธิการนายกฯ หรือเป็นเลขาฯของท่านแล้วจึงไปเป็นประธาน ป.ป.ช. แบบนี้ใครจะไปเชื่อว่าจะกล้าตรวจสอบท่านจริงจังเหมือนกรณีตรวจสอบคนอื่นอย่างเข้มข้นได้อย่างไร แถมหลังมีปัญหาท่านกลับถอดนาฬิกา และแหวน ราคาแพงออกแล้วใส่แบบธรรมดา ในทางการจับผิดทั่วไปเขาเรียกว่ามันผิดสังเกต ส่วนประเด็นข้อกฏหมาย ก็ว่ากันไป แสดงบัญชีหรือไม่ ได้มาก่อนหรือระหว่างรับตำแหน่ง ยืมเขามาใส่ เมียซื้อให้เป็นของขวัญ หรืออะไรก็ไปตอบกันตามขั้นตอนของกระบวนการ แต่สุดท้ายสังคมและผมเชื่อว่าท่านไม่ผิด ก็จะมีเหตุผลต่างๆมารองรับว่าทำไมไม่ผิด”นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า เรื่องนี้จะทำให้เกิดผลกระทบขึ้นมากมายจากการที่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา เช่น ป.ป.ช. ดูไม่น่าเชื่อถือในสายตาของสังคม รัฐบาลมีภาพลักษณ์ที่ถดถอยเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ที่สำคัญตัว พล.อ.ประวิตรเองจะได้รับผลกระทบในด้านภาพลักษณ์ ดูได้จากหลังจากที่พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ในสังคมออนไลน์ ทำภาพล้อเลียนท่านแบบนันสต็อบ หลากหลายเวอร์ชั่น ที่สร้างแต่ความเสียหายมากกว่าที่จะคาดการณ์ได้จริงๆ ตนจึงเป็นห่วงในวิธีคิด และวิธีปฏิบัติในการถูกตรวจสอบและวิธีคิดในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองจริงๆ
