เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ร.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุชายพยายามจะกระโดดที่สูง จากเสาไฟสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ชนะสงคราม และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นเสาไฟส่องสว่างของสนามฟุตบอล ความสูงประมาณ 30 เมตร พบชายทราบชื่อคือนายทอง โพธิ์ดี อายุ 69 ปี ชาว จ.สุโขทัย อาชีพขายพระเครื่อง นั่งอยู่บนกระเช้าเหล็กของเสาไฟดังกล่าว สร้างความหวาดเสียวต่อผู้พบเห็น โดยนายทองได้พูดเกี่ยวกับประชาธิปไตยผ่านโทรโข่ง และเรียกร้องขอพื้นที่ในการพูดคุยเรื่องการเมือง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม จึงพยายามเกลี้ยกล่อม และกางเบาะลมเตรียมพร้อม กระทั่งเผ่านไป 1 ชั่วโมงครึ่ง นายทองจึงโยนกระเป๋าที่ติดตัวมาลงเบาะลม ก่อนยอมปีนเสาไฟลงมาด้วยตัวเอง
จากสอบสวนนายทองเบื้องต้นให้การว่า ตนเดินทางจากบ้านพักย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ ตั้งใจมาปีนเสาไฟ เพราะต้องการพูดแสดงความคิดเห็น 3 เรื่อง คือ ประชาธิปไตย ความยุติธรรม และความเท่าเทียม รวมถึงวิจารณ์เรื่องการเมือง ส่วนสาเหตุที่ต้องปีนเสาไฟนั้น เนื่องจากไม่มีพื้นที่พูดที่ทำให้คนสนใจ
นอกจากนี้ ยังต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และชี้แจงว่าประชาธิปไตยคืออะไร ส่วนใครจะบริหารประเทศก็บริหารไปซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ก่อความเดือนร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า นายทองเคยก่อเหตุปีนเสาไฟของสนามฟุตบอล มธ. ท่าพระจันทร์ มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2558 ครั้งที่ 2 วันที่ 10 ธ.ค. 2559 นอกจากนี้ ยังเคยปีนต้นมะขามด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล 1 ครั้ง และปีนเจดีย์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 1 ครั้งด้วย
////
