ก้าวไกล ติงร่างรธน. จุดบอดเพียบ หวั่นเกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญรอบใหม่

ก้าวไกล ติง ร่างรธน.จุดบอดเพียบ หวั่นแก้ไม่สำเร็จ คนท้วงจนนายกฯ ไม่กล้านำขึ้นทูลเกล้าฯ คาดฝ่ายรัฐบาลปรับแก้อีกรอบสมัยประชุมหน้า

เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2564 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส่งเรื่องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ขอให้ทบทวนบทบัญญัติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่อาจขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2560 เช่น มาตรา 92 มาตรา 93 มาตรา 94 และมาตรา 105 อาจทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุด ว่า เป็นประเด็นมาตลอดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้มีความประหลาด เพราะเสนอหลักการแก้ไขแค่ 2 มาตรา และระบุเพียงให้แก้ไขระบบเลือกตั้ง ซึ่งไม่กว้างพอจะทำให้ระบบเลือกตั้งสมบูรณ์ขึ้น

นอกจากนี้เหตุผลที่เขียนในหลักการ เป็นเหมือนการอธิบายขยายความ เหมือนจะบอกให้มีส.ส.แค่ 400 คน คิดว่าคงจะเขียนตกคำว่าส.ส.เขต จึงอ่านเป็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 400 คน ซึ่งการเขียนแบบนี้สะท้อนความไม่รอบคอบ ทำให้ไม่เข้าใจว่าจริงๆ แล้วเจตนารมณ์คืออะไรกันแน่

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในมาตรา 83 ที่แก้ไขแล้วก็บอกว่าให้มีส.ส. 500 คน แต่พอดูมาตราอื่นประกอบจะสงสัยว่าสรุปแล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะให้เป็นบัตร 2 ใบ แบบโมเดล 2540 หรือให้มีการคิดส.ส.พึงมีแบบ 2560 ซึ่งเท่าที่ตนได้ยินมาก็เป็นไปได้ว่า ฝ่ายรัฐบาลต้องการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญอีกรอบหนึ่งในสมัยประชุมหน้า จึงอาจมีการยื่นเพื่อแก้ไขส่วนอื่นๆ เพิ่มอีก

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ความจริงตอนแรกตั้งใจจะทำในครั้งที่ผ่านมา แต่ที่ไม่ทำเพราะจะขัดต่อหลักการมากขึ้น จึงพยายามระวังให้อยู่ในกรอบมากที่สุด แต่อยู่ในกรอบมากที่สุดก็ยังแก้ไขมากกว่ามาตรา 83 และ 91 คือแก้ไขมาตรา 86 และเพิ่มเติมมาตราอื่นๆ เข้ามาด้วย จึงอาจมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นได้ว่า สุดท้ายอาจขัดต่อหลักการและไม่เป็นไปตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนด เมื่อร่างรัฐธรรมนูญมีหน้าตาแบบนี้ ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าถูกต้องจริงหรือไม่

เมื่อถามว่ากังวลว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไปต่อไม่ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กังวลว่าสุดท้ายจะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะไม่ใช่วิธีนี้ แต่จะมีปัญหาว่านายกฯจะนำขึ้นทูลเกล้าฯหรือไม่ เพราะหากคำถามนี้ดังขึ้นเรื่อยๆ อาจเกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญรอบใหม่ก็ได้ ว่าจะออกแบบไหนในทางกฎหมาย ซึ่งยอมรับว่าไม่รู้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จหรือไม่