เมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า เท่าที่ทราบเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนพ.ยนี้แน่นอน แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ เรื่องวัน เวลาเลือกตั้งกับการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองจะเริ่มทำกิจกรรมได้ คือเดือนเม.ย.ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับล่าสุด หากการเลือกตั้งเกิดก่อนตามประกาศโรดแม็ป พรรคการเมืองอาจมีปัญหาได้ แต่หากจะมีปัญหาอย่างไร พรรคการเมืองต้องพร้อมเพื่อให้การเลือกตั้งในเดือนพ.ย.เกิดขึ้น ตนมองว่าพรรคการเมืองถูกบีบให้อยู่ตรงกลาง แต่ต้องกัดฟันสู้เพื่อไม่ให้การเลือกตั้ง หรือการคืนอำนาจสู่ประชาชนต้องเลื่อนออกไป

อย่างไรก็ตาม ตนมีข้อกังวลสำคัญ คือ ร่างพ.ร.ป.อีก 2 ฉบับที่อยู่ในชั้นพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยเฉพา ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ทราบว่าจะเข้าที่ประชุมสนช.ในเดือนม.ค.นี้ แต่จนถึงขณะนี้กรรมาธิการไม่เชิญนักการเมือง ในฐานะผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย และมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงตามกฎหมาย ควรเชิญพรรคการเมืองเข้าให้ความเห็น ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญด้วย หรือหากเป็นไปได้ควรเปิดเผยรายละเอียดมาตราที่ปรับแก้ไขเพื่อให้นักการเมืองสามารถแสดงความเห็นก่อนที่ ร่างพ.ร.ป.ส.ส.จะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯเพื่อกันปัญหาที่อาจมีผู้ยกประเด็นไปร้องเรียน และกระทบต่อโรดแม็ปเลือกตั้งเดือนพ.ย.ได้

ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 เรื่อวการแก้ไขพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง นายนิกร กล่าวว่า ตนสนับสนุน เพราะจะได้สร้างบรรทัดฐานต่อการมีสิทธิของประชาชน และเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวคงไม่เกิดประเด็นขัดแย้งระหว่างนักการเมืองกับรัฐบาล เพราะคนเป็นนักการเมืองเมื่อจะตากฝนแล้วย่อมไม่กลัวเปียก แต่คำสั่งดังกล่าวที่ตัดสิทธิของสมาชิกพรรคการเมือง ถือเป็นประเด็นที่กระทบสิทธิของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง

“สัญญาณการปรับแก้คำสั่งคสช.53/2560 เพื่อเลี่ยงการยื่นศาลรัฐธรรมนูญนั้น ผมยังไม่ทราบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่ามองแค่ในมุมแค่ความได้เปรียบหรือเสียเปรียบทางการเมือง เพราะต้องคำนึงถึงการตัดสินใจของประชาชนด้วย เพราะหากคุณคิดว่า สร้างกติกาที่ทำให้ได้เปรียบ แต่ประชาชนเขารู้ ความได้เปรียบทางกฎหมายอาจจะกลายเป็นความเสียเปรียบทางการเมืองได้” นายนิกร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน