‘บิ๊กตู่’ ประชุมหนุนผลักดันระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาค ถกฮุนเซน เร่งก่อสร้างรถไฟชายแดน

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 2

ต่อมาเวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับไทย นายกฯ และคณะเดินทางถึงกรุงพนมเปญ โดยมีนายเขียว กัญญาฤทธิ์ รัฐมนตรีข่าวสารของกัมพูชา ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯ พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อหารือทวิภาคีกับสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ก่อนเข้าประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง -ล้านช้าง ครั้งที่ 2 ในเวลา 15.40 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “แม่น้ำแห่งสันติภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเรา” โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอีก 5 ประเทศร่วมประชุมด้วย ได้แก่ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกฯจีน สมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา นายทองลุน สีสุลิด นายกฯสปป.ลาว นายมิ้นต์ ส่วย รองประธานาธิบดีเมียนมา และนายเหวียน ซวน ฟุก นายกฯเวียดนาม

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ในการกล่าวถ้อยแถลง นายกฯเห็นว่ากรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ต้องดำเนินการจริง ไม่ใช่เพียงแค่การเจรจา โดยไทยสนับสนุนข้อริเริ่มของจีน ในการจัดทำแผนแม่บทด้านความเชื่อมโยงของกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งจะเป็นแผนแม่บทฉบับแรกของอนุภูมิภาค ทั้งนี้ แผนแม่บท ACMECS และปฏิญญากรุงเทพ จะปรากฏผลเป็นรูปธรรมในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยจะช่วยให้อนุภูมิภาคเชื่อมโยงเข้ากับนโยบายหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีน ไทยสนับสนุนการจัดทำระเบียงเศรษฐกิจแม่โขง-ล้านช้าง และผลักดันให้ระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค เชื่อมต่อเข้ากับเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านตะวันออกของไทย และเห็นพ้องกับจีนที่เสนอให้ขยายสาขาความร่วมมือของกรอบแม่โขง-ล้านช้าง โดยสาขาที่สามารถขยายความร่วมมือในอนาคตได้แก่ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและการศึกษา

พล.ท.วีรชน กล่าวถึงผลการหารือทวิภาคีระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับนายกฯกัมพูชาว่า มีการเร่งรัดความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งการเร่งรัดจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยการเดินรถร่วม เพื่อให้มีการลงนามโดยเร็ว สำหรับการสร้างทางรถไฟจากสะพานรถไฟอรัญประเทศ-ปอยเปต ไปยังตัวเมืองปอยเปต ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 95 และกัมพูชากำหนดก่อสร้างเส้นทางรถไฟและสถานีรถไฟให้เสร็จในช่วงเดือนม.ค.2561 และจะก่อสร้างเส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย–กัมพูชา ไปยังกรุงพนมเปญ ภายในปี 2563

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า เร่งรัดการก่อสร้างอาคารศุลกากรทั้งในฝั่งไทยและกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน จ.สระแก้ว–สตึงบท จ.บันเตียเมียนเจย ตลอดจนสะพานมิตรภาพไทย –กัมพูชา เพื่อเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งนี้ได้โดยเร็ว ส่วนการเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน–สตึงบท ปัจจุบันมีความคืบหน้าพอสมควรแล้ว นอกจากนี้ยังขอให้หน่วยงานความมั่นคง หารือมาตราการป้องกันการใช้อาวุธตามแนวชายแดน กรณีรุกล้ำเขตแดน ในการลักลอบตัดไม้เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งของหน่วยทหารในพื้นที่ด้วย

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือด้านแรงงาน ไทยได้ขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานกัมพูชา กลุ่มที่มีใบจับคู่แสดงความสัมพันธ์นายจ้าง–ลูกจ้างให้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จึงขอให้เร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ และการแจกเอกสารเดินทางให้กับแรงงานกัมพูชาที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ทั้งนี้ ไทยส่งเสริมให้แรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานในไทยโดยถูกกฎหมาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกฯกัมพูชา กล่าวขอบคุณนายกฯของไทยที่เข้าร่วมประชุมผู้นำแม่โขง-ล้านช้าง และยินดีที่มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น และขอให้ไทยสนับสนุนสินค้าเกษตรของกัมพูชา และการเชื่อมโยงทางรถไฟ

หลังการประชุมเสร็จสิ้น นายกฯร่วมพิธีมอบตำแหน่งประธานร่วม ในการประชุมครั้งต่อไปให้แก่ สปป.ลาว ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย และมาถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 22.40 น.