ถกร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ เถียงกันนาน 2 ชั่วโมง จี้ถาม กมธ.แก้เนื้อหา เว้นวรรคใช้เกณฑ์แต่งตั้งโยกย้ายใหม่ เอื้อตั๋วช้างหรือไม่ สุดท้ายรัฐสภายกมือผ่านฉลุย 494 คะแนน
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 5 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 169/1 ที่กมธ.มีการปรับเนื้อหา โดยให้เป็นการเว้นการบังคับใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือก หรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับต่าง ๆ ตามกฎหมายใหม่ ออกไป 180 วันโดยมีความเห็นที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ทั้งที่สนับสนุนการแก้ไขของ กมธ. และฝ่ายที่โต้แย้ง
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายว่า ตนไม่เห็นด้วยกับ กมธ.ที่แก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาดังกล่าว แม้จะมีการประชุมกันมา 2 ครั้งว่า จะแก้ไขได้หรือไม่ ซึ่งมีความเห็นใน กมธ.แตกเป็น 2 ฝ่าย และล่าสุดการประชุมเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 ก.ค. ลงมติเสียงข้างมาก 17 เสียงให้แก้ไข และเสนอข้อความใหม่ต่อสภา
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ปกติ เพราะถ้าปกติ กมธ.ต้องถอนเนื้อหาออกไปก่อน แต่นี่ไม่ถอน ส่วนที่บอกว่ามาตรา 169/1 เดิมจะมีผลกระทบกับการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ที่ผ่านมา ตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เข้าร่วมประชุมและรับรู้เนื้อหา รวมถึง ตร.เคยขอให้แก้ไข 14 จุด จึงถือว่ารับรู้มาตลอด จะอ้างว่าไม่รู้ข้อความไม่ได้ ดังนั้น ตนมองว่ามาตราที่เสนอมาใหม่นี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายในปีนี้
“ที่บอกว่าหากร่างกฎหมายนี้ใช้วันถัดจากประกาศใช้ มีคนเสียประโยชน์ ผมเชื่อว่าจะมีคนได้ประโยชน์เช่นกัน ทั้งนี้ ข้อความที่เสนอผมมองว่าไม่ต้องแก้ไขก็ได้ เพราะมีมาตรา 170 เขียนด้วยหลักการเดียวกัน แต่หากจะเสนอเพื่อโยนความรับผิดชอบของ ก.ตร. เป็น สภา เพราะสภาคุ้มครอง 180 วันให้ทำตามแบบเดิม ถือเป็นความผิดปกติที่อาจกระทบต่อกระบวนการนิติบัญญัติได้” นายสาทิตย์ กล่าว
ขณะที่ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน อภิปรายสนับสนุนนายสาทิตย์ และโต้แย้งกมธ.เสียงข้างมากที่เสนอข้อความเว้นวรรคการใช้กติกาใหม่ ว่าจะเอื้อประโยชน์กับบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายในปี เพราะเป็นบุคคลที่ไม่อยู่ในลำดับอาวุโส
โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายคัดค้านกมธ.เสียงข้างมาก พร้อมระบุว่า จะเอื้อให้บุคคลที่ถูกชื่อว่าได้ตำแหน่งมา เพราะตั๋วช้างเข้ามาดำรงตำแหน่ง โดยไม่คำนึงถึงระบบอาวุโส จึงถือเป็นประเด็นที่จะทำลายระบบยุติธรรมของการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เพราะไม่คำนึงถึงความอาวุโสตามที่ร่างกฎหมายกำหนด
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะรองประธานกมธ. ชี้แจงว่า ตนไม่มีญาติเป็นตำรวจ ดังนั้น การที่บอกว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่นคนได้ตั๋วช้าง ตั๋วม้า ตั๋วแมว หรือตั๋วอะไร ตนไม่ได้สนใจ เพราะมีทั้งคนได้และคนเสียพอกัน แต่สภาต้องออกกฎหมายแล้วต้องใช้ได้ อย่างไรก็ตาม มีตำรวจมาขอร้องว่าเกิดปัญหาตำรวจที่ถูกย้ายไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะย้ายกลับลำบาก ถ้ากฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ทันที ดังนั้น สภา จะใจจืดใจดำไม่ให้เชียวหรือ เพียงแค่ 180 วันเท่านั้น
จากนั้นที่ประชุมลงมติ เห็นด้วยกับกมธ.ที่เพิ่มขึ้นใหม่ 344 ไม่เห็นด้วย 181 งดออกเสียง 50 ไม่ลงคะแนน 1 คน เป็นอันว่าที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับกมธ. ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่
ต่อมาเวลา 13.30 น. หลังจากที่ประชุมรัฐสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ครบทั้ง 172 มาตราในวาระ 2 แล้ว ได้ลงมติในวาระ 3 โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ด้วยคะแนน 494 ไม่เห็นด้วย 40 งดออกเสียง 4 และไม่ลงคะแนน 1 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ รวมทั้งเห็นชอบกับข้อสังเกตของกมธ. ด้วย
