เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต่อนรับและหารือร่วมกับนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วมการหารือด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับพร้อมขอบคุณสหราชอาณาจักรที่ให้การสนับสนุนการปรับข้อมติสหภาพยุโรปต่อไทย สหราชอาณาจักรถือเป็นมิตรประเทศที่เก่าแก่ของไทย มีความสัมพันธ์อย่างยาวนานมากว่า 400 ปี จนเป็นความผูกพันในทุกระดับ ขอให้กระชับความสัมพันธ์ต่อกัน สร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันไปในอนาคต

ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมที่จะส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนชาวอังกฤษพิจารณามาลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) และหวังว่าสหราชอาณาจักรจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการค้าการลงทุนผ่านไปยังประเทศ CLMV ในภูมิภาค ตลอดจนเป็นการเชื่อมโยงไปสู่ภาคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้หยิบยกนโยบาย Global Britain ของสหราชอาณาจักรที่เน้นการค้าเสรี เปิดโอกาสให้สหราชอาณาจักรมีการค้ากับประเทศต่างๆทั้งในและนอกยุโรปมากยิ่งขึ้น จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยและสหราชอาณาจักรจะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนระหว่างกัน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ได้ยืนยันที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันในด้านต่างๆ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยประเทศไทยมีนโยบายที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน อาทิ ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยานอากาศ ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความร่วมมือด้านการศึกษา และการท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรีขอให้รัฐบาลอังกฤษดูแลนักเรียนไทยที่ศึกษาที่อังกฤษจำนวน 10,000 คน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าภูมิใจที่นักเรียนไทยเลือกเดินทางไปศึกษาที่สหราชอาณาจักร เพราะมีกระบวนการศึกษาที่ดี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรยังชื่นชมไทยที่ได้รับการปรับสถานะ (Ease of Doing Business)มีเป็นประเทศที่น่าลงทุนอันดับที่ 26 และแสดงความเชื่อมั่นในพัฒนาการทางประชาธิปไตยของไทย เชื่อมั่นว่าไทยจะจัดการเลือกตั้ง และประสบความสำเร็จในการปฏิรูปตามโรดแม็ป

ในตอนท้าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรเชิญชวนฝ่ายไทยให้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุม London Conference on the Illegal Wildlife Trade 2018 ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว และนายกรัฐมนตรีได้แจ้งเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย รัฐบาลไทย ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาระดับโลกด้านอื่นๆ อาทิ การค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ IUU การค้ามนุษย์ ซึ่งจะเห็นผลที่ดีขึ้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่ข่าวรายงานว่า ในการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทย กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ในครั้งนี้ไม่ได้มีการหารือหรือสอบถามถึงการพำนักอยู่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สหราชอาณาจักร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน