เมื่อวันที่ 12 เม.ย. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าสำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมสร้างออฟฟิศเชียลไลน์ และสติ๊กเกอร์ไลน์ โดยใช้งบประมาณ 7 ล้านบาท ว่า โครงการดังกล่าวไม่ใช่โครงการของตน เพราะตนเป็นเพียงข้าราชการเมืองของสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณได้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการของผู้อำนวยการสำนักโฆษกฯ ที่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ถือเป็นเรื่องของข้าราชการประจำ ตนไม่รู้รายละเอียด เพราะผู้อำนวยการสำนักโฆษกฯเสนอเรื่องต่อเลขาธิการนายกฯ

หน้าที่ของตนคือ การให้ข้อมูลชี้แจงการทำงานของรัฐบาล และให้นโยบายสนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น แต่ถ้าตนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องงบประมาณจะเป็นในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ตนไปทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เท่านั้น ส่วนที่มีการโจมตีตนในโซเชียลมีเดียถึงเรื่องดังกล่าว ก็ไม่เป็นไร ต่อจากนี้ประชาชนจะทราบข้อเท็จจริงและที่พูดมาทั้งหมดไม่ใช่เป็นการปัดเรื่องให้พ้นตัว แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดจริงๆ

นางนัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก กล่าวชี้แจงว่า 1.การจัดจ้างดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานประจำปีของสำนักโฆษก ซึ่งมีภารกิจในการเผยแพร่นโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาลแก่สาธารณชน และตอบสนองตัวชี้วัดการปฏิบัติราชการในการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน และสอดคล้องกับเสริมสร้างประสิทธิภาพการสื่อสารรัฐบาล ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนการปฏิบัติราชการโดยมิได้เป็นข้อริเริ่มของฝ่ายการเมือง ตามที่นำไปพาดพิงแต่อย่างใด 2.ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่สื่อสารข้อมูลในชีวิตประจำวันถึงกันและกันด้วยการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่สามารถแบ่งปันสารซึ่งอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ไปยังผู้อื่นผ่านเครือข่ายออนไลน์ โดยพบว่าคนไทยนิยมใช้งานแอปพลิเคชัน LINE มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากแอปพลิเคชัน LINE ใช้งานง่ายและสามารถส่งข้อมูลที่มีรูปแบบหลากหลายแตกต่างกันได้ เช่น ข้อความ รูปภาพ โปสเตอร์ ลิงค์เชื่อมต่อเว็บไซต์ภายนอก ข้อความเสียง คลิปวิดีโอ สติกเกอร์ โลโก้ เป็นต้น ทำให้แอปพลิเคชัน LINE แพร่หลายไปยังประชาชนทุกกลุ่มตั้งแต่เด็ก เยาวชน คนวัยทำงาน และผู้สูงอายุ ดังนั้น สำนักโฆษกจึงมีความประสงค์จะเพิ่มช่องทางและประสิทธิภาพการสื่อสารไปยังประชาชนผ่านแอปพลิเคชัน LINE เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการรับสารของกลุ่มเป้าหมาย โดยแม้ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาล แต่ช่องทาง LINE นี้ยังคงเป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับรัฐบาลต่อไป

3.วัตถุประสงค์ของการใช้เครื่องมือดังกล่าว คือ การสร้างการรับรู้นโยบายสำคัญอันเป็นสิทธิพึงมีพึงได้ของประชาชน การเตือนภัยพิบัติ หรือการอธิบายข้อมูลที่สังคมเกิดความสับสนหรือเข้าใจผิด เพื่อลดความตื่นตระหนก ด้วยความรวดเร็วและถูกต้อง 4.แหล่งที่มาของราคากลาง (ราคาอ้างอิง) จำนวน 7,029,900 บาท ใช้ราคาตลาด โดยสืบราคาจากบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งสำนักโฆษกในฐานะผู้รับบริการจะได้รับบริการด้านระบบ 1) LINE Official Account (OA) และ 2) LINE Official Home (OH) เป็นระยะเวลา 1 ปี 3) ระบบเผยแพร่ LINE Sticker เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ามาติดตาม OA ของสำนักโฆษก ระยะเวลาดาวน์โหลด 30 วัน ใช้งานได้ 90 วัน ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวเป็นราคามาตรฐานที่บริษัท ไลน์ ให้บริการแก่หน่วยงานอื่นของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ

5. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ประกาศราคากลางทางเว็บไซต์สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 มี.ค.61 และประกาศทางเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลางเช่นเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ และป้องกันการทุจริต ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด 6.การจัดจ้างดำเนินงานใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เนื่องจากผู้รับจ้างมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในการจัดทำ LINE Official Account เป็นการเฉพาะ และเป็นผู้ให้บริการแอปพลิชันแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย 7. สำหรับการจัดทำ LINE Sticker เพื่อประชาสัมพันธ์ OA ของสำนักโฆษกนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการกำหนดแนวคิด โดยต้องการสร้างสติกเกอร์ ให้มีลักษณะที่สะท้อนถึงการทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด
“สำนักโฆษกขอยืนยันว่า

การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลแก่ประชาชน ซึ่งมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ทันสมัย ล่าช้า และไม่ตอบโจทย์สังคม และทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยสำนักโฆษกยินดีที่จะเปิดเผยข้อมูลให้แก่สื่อมวลชนและประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สาธารณชน”นางนัทรียา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน