“โชห่วย” หรือร้านขายของชำ ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานจนถึงปัจจุบัน ส่วนมากจะอยู่ในชุมชน คนขายก็จะเป็นครอบครัวในชุมชน รายได้จากการขายก็ไม่มากนัก เป็นแรงงานอิสระอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ยังไม่มีสวัสดิการทางสังคม เป็นหลักประกันเมื่อเวลาเจ็บป่วยทำงานไม่ได้ ดังนั้นมาตรา 40 สร้างหลักประกันทางสังคมให้ “โชห่วยไทย”
กระทรวงแรงงาน โดย พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงใยต้องการให้เข้าถึงหลักประกันทางสังคม แม้จะมีรายได้น้อย ก็สามารถจ่ายเงินในอัตราที่ต่ำ เพื่อสร้างความคุ้มครองที่สูง เมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป สำหรับแผนการประกันตนเองโดยสมัครใจมาตรา 40 เป็นแผนประกันชีวิตของรัฐบาล ที่มีให้เลือกจ่าย 3 ทางเลือก เพื่อมีสิทธิประโยชน์ในการดูแลตนเองให้กับ “โชห่วย”และสามารถใช้ร่วมกับสิทธิการรักษาอื่นของรัฐบาลได้
ทางเลือกแรก จ่ายวันละ 3 บาท หรือ 70 บาทต่อเดือน รับความคุ้มครอง 3 กรณี ประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ประกันสังคมจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 300 บาท ทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 15 ปี และตาย รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท
ทางเลือก 2 จ่ายวันละ 3.50 บาท หรือ 100 บาทต่อเดือน รับเงินออม 50 บาทต่อเดือน รับความคุ้มครอง 4 กรณี ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ประกันสังคมจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 300 บาท ทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 15 ปี ตาย รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท และรับเงินบำเหน็จชราภาพ
ส่วนทางเลือก 3 เป็นทางเลือกใหม่ จ่ายวันละ 10 บาท หรือ 300 บาทต่อเดือน มีเงินออมให้
เดือนละ 150 บาททุกเดือน ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 300 บาท กรณีไม่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป รับวันละ 200 บาท
เพิ่มการจ่ายเงินทดแทนหากทุพพลภาพเป็นตลอดชีวิต เสียชีวิต เพิ่มเงินค่าทำศพเป็น 40,000 บาท
รับเงินบำเหน็จชราภาพ เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หากส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน รับเงินเพิ่มอีก
10,000 บาท และมีเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือน จำนวน 200 บาท ต่อคนต่อเดือน คราวละ 2 คน จนอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
การสมัครง่าย ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว มีอายุตั้งแต่ 15 ปี – 60 ปีบริบูรณ์ ขอสมัครได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ โดยช่องทางการจ่ายเงิน ก็สะดวก สำหรับมาตรา 40 นั้น จ่ายเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส, เคาน์เตอร์บิ๊กซี, เคาน์เตอร์เทสโก้โลตัส, เคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย และเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ
และหักผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารธนชาต, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สอบถามได้ที่ สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือดูข้อมูลได้ที่ www.sso.go.th
