ผู้นำด้านนวัตกรรมธุรกิจเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. “บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล” หรือ GC ร่วมส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทางโดยรถ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการระบบขนส่งภายในองค์กร จับมือฟรอนทิสและไมโครซอฟท์ นำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์มาพัฒนาเพื่อป้องกันผู้ขับรถหลับในและตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถ มุ่งสู่เป้าหมายการลดสถิติอุบัติเหตุบนถนนในประเทศไทย

 

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GC กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก และจังหวัดระยองถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นมากที่สุด โดยร้อยละ 60 มาจากการขนส่งสาธารณะ และมีสาเหตุหลักคือการขับเร็วเกินกำหนดและการง่วงนอนซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถป้องกันได้ ดังนั้น GC ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและเคมีภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดี จึงร่วมมือกับบริษัทที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์และการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในองค์กร “ฟรอนทิส” และผู้นำด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลกอย่าง “ไมโครซอฟท์” พัฒนาระบบเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนภายใต้โครงการ “AI for Road Safety” ซึ่งยังสะท้อนถึงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นของ GC ในปัจจุบัน

“อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่นำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ก่อให้เกิดการบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงส่งผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งนี้ GC มีพนักงานที่ต้องเดินทางทั้งในเขตพื้นที่ระยองรวมถึงไป-กลับกรุงเทพฯ โครงการนี้จึงช่วยให้พนักงานมีความปลอดภัยในการเดินทาง นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยทำงานด้วยเทคโนโลยีการวิเคราะห์ภาพอัจฉริยะ (Video Analytics) ระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data Analytics) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) จะช่วยป้องกันและตรวจสอบการขับรถของคนขับ เพิ่มความปลอดภัย และลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ซึ่ง GC นับเป็นองค์กรแรกในประเทศไทยที่มีการนำ Video Analytics และ AI มาประยุกต์ใช้ ร่วมกับ Big Data Analytics สำหรับการบริหารจัดการระบบขนส่งเพื่อการบริการและอำนวยความสะดวกภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น”

ปริญญ์ บุญดีสกุลโชค กรรมการผู้จัดการ ฟรอนทิส กล่าวว่า นวัตกรรม AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับรถเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุโดยแบ่งระบบการทำงานเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ติดตามพฤติกรรมการขับรถ เพื่อตรวจจับความง่วง การเสียสมาธิ ความเร็ว และตำแหน่งของรถ, รับส่งข้อมูลและแสดงผล โดยโปรแกรมจะรับส่งข้อมูลผ่านคลาวด์ จากนั้นวิเคราะห์และประมวลผลด้วย AI, ส่งสัญญาณแจ้งเตือนผู้ขับและผู้จัดการระบบขนส่ง เมื่อตรวจพบค่าความเสี่ยงถึงระดับที่ต้องแจ้งเตือน ระบบจะส่งสัญญาณเสียงให้ผู้ขับและผู้จัดการรับทราบ เพื่อแจ้งเตือนก่อนอุบัติเหตุจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลรายงานด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ขับ หาสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ และเส้นทางการเดินทางของรถ โดยแสดงผลผ่าน Fleet Management Dashboard ไปยังผู้จัดการระบบขนส่ง

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) อธิบายเพิ่มเติมถึงระบบบริหารจัดการยานพาหนะและติดตามผู้ขับขี่ของโครงการนี้ พัฒนาต่อยอดขึ้นจากกลุ่มบริการ Cognitive Services บนแพลตฟอร์มคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ ซึ่งนำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ในการทำความเข้าใจและวิเคราะห์โลกรอบตัว ก่อนจะนำผลที่ได้มาใช้ตอบโจทย์ทางธุรกิจต่อไป โดยระบบมีรากฐานอยู่บน Face API (Application Programming Interface) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการกลุ่ม Cognitive Services ที่สามารถตรวจจับ จดจำ ระบุตัวตน หรือแม้แต่คาดคะเนอารมณ์ความรู้สึกจากใบหน้าได้ และกลุ่มบริการ Azure Cognitive Services มี API ที่ครอบคลุมฟังก์ชันการรับรู้ในด้านต่างๆ มากถึง 39 API ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง 8 API ที่อยู่ในช่วงการทดลองใช้งาน และอีก 12 API ที่เปิดให้ทดสอบก่อนในระหว่างการพัฒนา เพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำศักยภาพอันชาญฉลาดของ AI มาประยุกต์ใช้ในหลากหลายรูปแบบ นับตั้งแต่ฟังก์ชันการรับรู้และวิเคราะห์ข้อมูลใบหน้าที่ระบบนี้นำมาใช้งาน ไปจนถึงการควบคุมดูแลเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมบนเว็บไซต์แบบอัตโนมัติ การทำความเข้าใจภาษาพูดและภาษาเขียนแบบธรรมชาติ หรือการวิเคราะห์เนื้อหาภาพถ่ายและวิดีโอ เป็นต้น

ผู้สนใจสามารถร่วมสัมผัสและทดสอบความสามารถของระบบบริหารจัดการยานพาหนะและติดตามผู้ขับขี่ของโครงการ “AI for Road Safety” ได้ที่บูธไมโครซอฟท์ในงานดิจิทัลไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2018 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ในวันที่ 19-23 กันยายน นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน