หากพูดถึงการท่องเที่ยวในกลุ่มภาคตะวันออก “จังหวัดจันทบุรี” นับได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ จากสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จันทบุรีมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจาก 1.55 ล้านคนในปี 2555 เป็น 1.94 ล้านคน ในปี 2559 เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 5,700 ล้านบาท ส่วนปี 2560 ข้อมูลเบื้องต้นระหว่างเดือนมกราคม – ธันวาคม จังหวัดจันทบุรีมีนักท่องเที่ยวรวมกว่า 2.01 ล้านคน มีรายได้สูงถึง 6,182 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่ใกล้เคียงกับเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว
ด้วยเพราะความโดดเด่นเรื่องอาหารถิ่น เชื้อชาติ วิถีชีวิต ชุมชนที่หลากหลาย และขาดไม่ได้เลยคือเรื่องผลไม้จนได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองผลไม้คุณภาพ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ที่มีเรื่องราวน่าสนใจทรงคุณค่ากับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้รับการสืบทอดมาช้านาน “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” และ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” จึงยกให้จันทบุรีเป็น ‘ต้นแบบเมืองรอง’ สอดรับนโยบายรัฐบาลในการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน ยกระดับฐานรากให้เข้มแข็ง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ผ่านกิจกรรม “สัมมนาและอบรมเชิงปฏิบัติการ การท่องเที่ยวเมืองรอง และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน” เชิญชุมชน ผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคการท่องเที่ยว พร้อมสื่อมวลชน ลงพื้นที่สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรอง เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของเมืองรองในการรองรับนักท่องเที่ยว
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือกันตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการพัฒนาจากภายในชุมชนเป็นหลัก ควบคู่กับการบูรณาการความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้สอดคล้องและดำเนินแผนไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชน ซึ่งถือเป็นหน่วยเล็กแต่สำคัญที่สุดของเป้าหมายการพัฒนาครั้งนี้
“จันทบุรี เป็นเมืองที่มีศักยภาพพร้อมทั้งในส่วนของกิจกรรมการท่องเที่ยว และการคมนาคม ทุกองค์ประกอบของแหล่งท่องเที่ยวในจันทบุรีล้วนมีชุมชนเป็นตัวตั้ง จึงยกชุมชนริมน้ำจันทบูรเป็นชุมชนต้นแบบของจังหวัด เน้นการพัฒนาต่อยอดจากความเป็นจริง บนพื้นฐานความพร้อม และคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของตัวชุมชนเองซึ่งมีเสน่ห์เป็นต้นทุน ตามหลักการเติบโตจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งต้องอาศัยการสร้างธรรมนูญหรือกฎสูงสุดแห่งการอยู่ร่วมกันของชุมชน ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตาม เชื่อว่าจากความสำเร็จของชุมชนริมน้ำจันทบูร จะดึงดูดให้ชุมชนอื่นๆ ในจันทบุรีสนใจและหันมาทำท่องเที่ยวโดยชุมชนมากขึ้น”
“ขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ ททท. ที่เห็นคุณค่าของวิถีไทย ส่งเสริมตลาดและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องกับเมืองรองทั่วประเทศ ทำให้จันทบุรีมีวันนี้ พลิกจากวันที่เป็นเพียงเมืองผ่าน สู่การเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว มีสินค้า แหล่งท่องเที่ยวครอบคลุมทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมท้องถิ่น 4 เชื้อชาติ ไทย จีน ญวน ชอง ที่สืบทอดกันมานับพันปี ทั้งยังเชิดชูอัตลักษณ์อาหารถิ่นนานาชนิด มหานครแห่งผลไม้ และเมืองแห่งอัญมณีอันเลื่องชื่อ ที่เป็นมรดกแผ่นดินที่คนจันท์ภาคภูมิใจ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวและสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน ตามแนวคิด สุขทุกวันที่…จันทบุรี” วณิชชา วัฒนพงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรี กล่าวทิ้งท้าย
