“DTAC” เดินหน้าทำงานร่วมกับ “YouTube Kids” อย่างต่อเนื่อง ตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับเด็กและเยาวชน (Child-friendly Business) ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมต่อกลุ่มเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งปัจจุบันมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 82%
ล่าสุด ผนึกกำลังนักสร้างคอนเทนต์ “YouTube Kids” ช่อง YouTube เกี่ยวกับเด็กที่มียอด subscribers สูง อาทิ ครูนกเล็ก, เด็กจิ๋ว ชิลเอ๊าท์, Lovely Kids Thailand, Pororo, Madame TV, Brianna’s Secret Club ร่วมกันลดความเสี่ยงของเด็กที่จะเข้าถึงคอนเทนต์ที่เกิดจากเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน ด้วยการสนับสนุนเนื้อหาเพื่อเด็ก ทั้งสาระและความบันเทิง เพื่อให้เด็กๆ เรียนรู้อย่างสนุก มีความสุข และช่วยให้พ่อแม่ผู้ปกครองยุคดิจิทัลเลือกใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงบุตรหลานได้อย่างสบายใจ
อีกทั้ง DTAC ยังมีของขวัญชิ้นพิเศษต้อนรับวันเด็กแห่งชาติประจำปีหมูทอง ที่ให้ลูกค้าDTAC ทั้งแบบเติมเงิน (ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป) และรายเดือน (ที่ใช้แพ็คเกจหลักที่มีราคาตั้งแต่ 599 บาท/เดือน ขึ้นไป) ได้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 2 GB ฟรี 30 วัน นับจากวันที่กดรับสิทธิ์ สำหรับใช้ดูคลิปดีต่อเด็กผ่านแอปพลิเคชัน YouTube Kids โดยสามารถรับสิทธิ์ได้ 1 สิทธิ์ตลอดรายการ ตั้งแต่ 12 ม.ค. ถึง 11 เม.ย 2562 เพียงแค่กด *399*112# แล้วโทรออก
“ปานเทพย์ นิลสินธพ” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริการและการขายดิจิทัล บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC เปิดเผยว่า คนไทยใช้งานดาต้ามือถือสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการใช้งานหลักยังเกิดขึ้นจากการใช้งานโซเชียลมีเดีย และการใช้งาน VDO Streaming นั้นอยู่เป็นอันดับต้นๆ ของการใช้งานดังกล่าว โดย 40% เป็น YouTube ในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จึงให้ความสำคัญกับการบริโภคสื่อและการเข้าถึงโลกออนไลน์ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน โดยมองถึงความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นในด้าน Conduct Risk เด็กที่ใช้ช่องทางออนไลน์เข้าไปทำพฤติกรรมไม่ดีกับคนอื่น, Contact Risk ผู้ไม่ประสงค์ดีที่ต้องการเข้าถึงเด็กและเยาวชน ผ่านช่องทางออนไลน์, Content Risk การเข้าถึงคอนเทนต์ที่อาจไม่เหมาะกับวัย รวมไปถึง Time Risk การใช้โลกออนไลน์นานแต่ไม่ได้พัฒนาความสามารถ
“เราต้องการให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็ก ได้เข้าถึงคอนเทนต์ได้อย่างง่ายที่สุดและเหมาะสม และเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของเด็กที่จะเข้าถึงคอนเทนต์ จึงได้ร่วมกับ YouTube Kids แอปพลิเคชัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม Online Ecosystem ที่ดีต่อเด็กและเยาวชนไทย เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ตลอดจนเสริมสร้างจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชน”
เช่นเดียวกับ “มุกพิม อนันตชัย” หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจบันเทิง YouTube ประเทศไทย ที่บอกว่า ต้องการให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มของทุกๆ คน มีประโยชน์กับทุกภาคส่วน รวมไปถึงเด็กและเยาวชน ซึ่งการร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ที่ให้ความสำคัญกับเยาวชนไทยอย่าง DTAC ครั้งนี้ จะยิ่งส่งเสริมให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้ภายใต้คอนเทนต์ที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของความพยายามที่อยากจะเห็นเด็กไทยสามารถเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ และเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเปิดประสบการณ์ของบุตรหลานบนโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างรู้สึกสบายใจ
สำหรับ YouTube Kids นั้น นับเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้เพื่ออนาคตเยาวชนไทย มีการกลั่นกรองเนื้อหาและคลิปต่างๆ ที่เหมาะกับเด็กๆ โดยเฉพาะ ซึ่งผู้ปกครองสามารถควบคุมเนื้อหาที่บุตรหลานดูได้ จำกัดเวลาใช้งานได้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังสามารถสร้างโปรไฟล์ของบุตรหลานได้สูงสุด 8 โปรไฟล์ ตั้งค่ากำหนดการรับชม การแนะนำวิดีโอได้ด้วยตัวผู้ปกครองเอง รวมไปถึงการปิดการค้นหาวิดีโอเพื่อคุมการใช้งานให้อยู่ในเนื้อหาที่เลือกให้ดู ก็สามารถทำได้
ในส่วนของคอนเทนต์ ไม่เพียงแต่พันธมิตรและทีมงาน YouTube Kids จะนำเสนอช่องที่มีความน่าเชื่อถือและครอบคลุมเนื้อหาที่หลากหลายเท่านั้น ยังคัดสรรเนื้อหาที่น่าสนใจจากทั่วโลกเพื่อกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นครอบครัว โดย “จีรภัทร์ สุกางโฮง” เจ้าของช่อง “ครูนกเล็ก” ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ผลิตคอนเทนต์ช่องครูนกเล็กว่า “ด้วยเด็กไทยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และ YouTube ก็เปรียบเสมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่มีชั่วโมงเรียนมากกว่าชั่วโมงเรียนในโรงเรียน เฉพาะช่องครูนกเล็ก ก็มียอดวิวถึง 8 ล้านครั้งต่อวัน คนที่ทำคอนเทนต์จึงเปรียบเสมือนครูที่ต้องรับผิดชอบ สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีสาระบันเทิงให้กับเด็ก ให้ความรู้ให้ข้อคิดต่างๆ กับเด็ก แต่สำคัญพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ต้องคอยสอดส่องดูแล ควบคุม การเข้าถึงคอนเทนต์ของเด็กด้วย”
เรียกได้ว่า เป็นการสร้างแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับครอบครัว ซึ่งจะทำให้มีช่วงเวลาแห่งครอบครัวที่มีความสุขและความบันเทิงไปด้วยกันอย่างมั่นใจ ซึ่ง DTAC เองก็มีแผนที่จะขยายบริการเช่นนี้ไปยังวิดีโอแพลตฟอร์มอื่นๆ อีก คาดว่าจะมีการอัพเดตให้ได้ทราบกันเพิ่มเติมอีกครั้งในเร็วๆ นี้
