เรื่องและภาพโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ gurutourza

ททท.ภาคตะวันออก เปิดแนวรุกขายท่องเที่ยว 9 จังหวัด ต้อนรับศักราชใหม่ยก MORE FUN ครบเครื่องมาเสนอขาย ในมหกรรม “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” 23-27 ม.ค. 62 ณ สวนลุมพินี ห้ามพลาด! ร่วมสนุกเกินร้อยกับไฮไลต์หนึ่งเดียวในเมืองไทย 5 กิจกรรม 12 โปรแกรมทัวร์ 9 จังหวัด

“นายวิบูลย์ นิมิตวานิช” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ววางกลยุทธ์ขับเคลื่อนตลาดการท่องเที่ยวต้อนรับศักราชใหม่ปี 2562 ด้วยแคมเปญ More Fun-การท่องเที่ยวแสนสนุกโดยใช้กิจกรรมธรรมดาทำเป็นเรื่องเล่นแสนสนุกมาเติมสีสันให้ชีวิตในพื้นที่ที่ภูมิภาคภาคตะวันออกดูแล 9 จังหวัด ซึ่งมีพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเล ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด จะสุขสันต์ด้วยธีมทะเลที่มีความสวยงามและความหรูหรา แต่ละพื้นที่มีจุดขายโดดเด่นดังนี้

“พัทยา ชลบุรี” มีทะเลสวยงามปีนี้จะเพิ่มความเข้มข้นขายการท่องเที่ยวหรูหราด้วยแพกเกจล่องเรือยอร์ชอย่างสนุกสนานควบคู่กับกิจกรรมใหม่ ๆ การเล่นเรือใบ หรือจะไปอลาคัมปาณ ชวนครอบครัว เก็บไข่ ทำสวนครัว เลี้ยงม้า

“ระยอง” มีบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับผืนป่าติดทะเลอุดมสมบูรณ์ เช่น ป่าวังจันทน์ ปตท.ได้นำองค์ความรู้กว่า 20 ปีจากการปลูกป่าทั่วประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมดอกไม้สวยงาม

“จันทบุรี” เป็นเมืองเต็มไปด้วยความสนุกสนานกับทั้งเรื่อง การกิน วิถีชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนขนมแปลก ตลาดใหม่ ชื่อตลาดทุบหม้อ มีวัดพลับ ส่วนบริเวณบางกะเป็นแหล่งร่อนพลอยแหวน เพชร เมื่อขุดจากชั้นหินแล้วมาร่อนล้างน้ำจะได้พลอย ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกเพียงจ่ายแค่คนละ 100 บาท ก็สามารถลุ้นรับพลอยจากการลงไปร่อนด้วยตนเอง แต่จะได้พลอยขนาดเม็ดเล็กหรือใหญ่ก็ต้องได้ทุกครั้ง

จันทบุรียังตลาดน้องใหม่อีกแห่งคือ “ตลาดหลังวัดโรมัน” แหล่งอาหารถิ่น “หมูอบโอ่ง” ซึ่งเป็นเมนูหมูกรอบของคุณตาคุณยายทำจากสูตรพิเศษแต่ละวันจะเสิร์ฟจนถึงเที่ยง ด้วยแถบนี้เป็นชุมชนชาวญวนจึงมีขนมโบราณให้ชิม อาทิ ขนมโบ๋ ขนมต่าง ๆ และบันเชฟ คล้ายขนมโก๋ มีกลิ่นหอม ชวนรับประทานอย่างมาก ส่วนใน “อำเภอขลุง” มี “ตลาดตะปอน” ซึ่งเกิดขึ้นจากชาวบ้านได้นำผลผลิตมาแลกเปลี่ยนการค้าขายระหว่างกัน

“ตราด” คือจังหวัดที่ต้องไปท่องเที่ยว “ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว” มีสะพานวัดใจ เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวต้องพิสูจน์ว่าจะเดินข้ามไปอีกฝั่งได้หรือไม่ มีกิจกรรมไฮไลต์ให้ชม การสานงอบ ชิมอาหารอร่อยไฮไลต์คือข้าวเกรียบยาหน้า ส่วน “ชุมชนแหลมยายม่อม” มีการทำสปาทรายดำแห่งเดียวในเมืองไทย และ “ชุมชนท่าระแนะ” สามารถล่องเรือไปดูป่าโกงกาง หากน้ำลดสามารถเดินเล่นได้เลยอีกทั้งยังสามารถนำลูกตะบูนมาโยนเล่นเป็นโบลิ่งได้ ส่วนใน “อำเภอบ้านคลองใหญ่” ก็มีชุมชนชวนน่ารัก ๆ อยู่ด้วย

วิธีการท่องเที่ยวจังหวัดตราด แนะนำให้แวะ “พิพิธภัณฑ์เมืองตราด” ได้จัดทำข้อมูลเรียบเรียงไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ก่อนจะเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยว เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์อยู่แล้ว

เปลี่ยนเส้นทางมายังพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ อีก 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานในสไตล์ More Fun ได้ดังนี้ คือ

“นครนายก” มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ โรงเรียนนายร้อย จปร.ซึ่งมีสถานีวัดใจนักท่องเที่ยวในการกระโดดหอแล้วรับปีกเป็นผู้กล้า หรือจะขับรถ ATV ท่องเที่ยวเชิงผจญภัยกลางธรรมชาติ ล่องแก่งต่าง ๆ สามารถทำได้ตามความชอบ รวมถึงยังมีเขื่อนขุนด่านปราการชล ก็เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้โครงการพระราชดำริสำคัญอีกแห่ง

“ปราจีนบุรี” เป็นอีกพื้นที่ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ “ภูมิภูเบศร์” เป็นสวนสมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ อยู่ในเครือข่ายของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ ที่นี่จะมีหมอพลอย สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งยกเรือนหมอจากสี่พระยาไปตั้งไว้ เป็นเสน่ห์ดึงดูดความสนใจ โดยมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมทำ D.I.Y.ยาดมสมุนไพร สำหรับไฮไลต์อีกกิจกรรมการดองยา กล้วยดองน้ำผึ้งจนกลายเป็นไวน์ผลไม้ แถมมีสรรพคุณรักษาโรคได้ด้วย ซึ่งเป็นเรียนรู้สมุนไพรไทยมีคุณประโยชน์มากมายในชีวิตประจำวัน

“สระแก้ว” ไปชมปราสาทสด็อกก๊อกธมที่สวยงามมาก ภายในตัวเมืองก็จะมีร้านกาแฟชิค ๆ เก๋ ๆ รวมทั้งมีไฮไลต์ ”โรงเรียนกาสรกสิวิทย์” เปิดสอนควายทำนา ซึ่งปัจจุบันไถนาไม่เป็นแล้วต้องเข้ามายังโรงเรียนแห่งนี้ ภายในโรงเรียนมีเครื่องดื่มขึ้นชื่อต้องชิม 2 เมนู คือ ควายคะนอง กับควายเผือก และมีอาหารอร่อยให้เลือกชิม นอกจากนี้สระแก้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างตลาดโรงเกลือ ชุมชนละลุ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปดูยุคหินโปร่งกัน

“จังหวัดฉะเชิงเทรา” โดดเด่นมากด้านการท่องเที่ยวไหว้พระ ที่วัดหลวงพ่อโสธร หรือจะไปวัด เล่งฮกยี่ เป็นส่วนท้องมังกร มีความเชื่อมโยงกับวัดเล่งเน่ยยี่ ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนหัวมังกร และวัดเล่งฮั่วยี่-วัดมังกรบุปผาราม เป็นท้ายมังกร อยู่ในอำเภอขลุง จันทบุรี ในฉะเชิงเทรายังมีหลวงพ่อโต และมีองค์เทพ เช่น พระพิฆเนศ ซึ่งเป็นเทพแห่งความสำเร็จ มีทั้งปรางค์ที่เป็น องค์ยืน องค์นั่งเสวยสุข อยู่ในวัดสมาน อำเภอบางคล้า ไว้ให้สักการะ ส่วนตัวเมืองมีจุดขายการท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นชื่อ คือ สวนมะม่วง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้ เขียวเสวย และพันธุ์ล่าสุดคือมะม่วงแรดหารับประทานได้ยากมาก รสกลมกล่อม 3 รส เปรี้ยว หวาน มัน รวมทั้งมีบริการล่องเรือท่องเที่ยวแม่น้ำบางปะกง

“สมุทรปราการ” เป็นอีกจังหวัดที่มากด้วยเสน่ห์ใกล้กรุง ที่บ้านสาขลา ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ มีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องการทำเมนูอาหารกุ้งเหยียด ชิมเสร็จก็ไปเดินชมรอบวัดสาขลา มีองค์เทพสวยงาม โดยเฉพาะพระพิฆเนศหลายปาง นับเป็นศิลปะสวยงามมาก ข้ามไปทาง “ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง” เป็นชุมชนอาหารอร่อยมีอาหารถิ่นทั้งคาวหวานให้เลือกรับประทาน บริเวณใกล้ ๆ กันยังมี “คลองลัดโพธิ์” คลองช่วยในการระบายน้ำจากภาคเหนือสู่อ่าวไทย ลักษณะเด่นคือประตูหากชันน้อยจะปล่อยน้ำน้อยและชันมากจะปล่อยน้ำได้มาก

ผอ.วิบูลย์อธิบายว่าในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562” ททท.ภาคตะวันออก จะยกวิถีชุมชน เมืองหลัก เมืองรอง ดาหน้ากันเข้ามานำเสนอจุดขายการท่องเที่ยวเด่น ๆ 5 กิจกรรมความสนุก ได้แก่

1. “กิจกรรมสาธิต” เช่น ชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี จะมาโชว์การทำอาหารถิ่นขึ้นชื่อเมนู “ไก่กะลา” หรือชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด จะโชว์การทำข้าวเกรียบยาหน้า หนึ่งเดียวในเมืองไทย ส่วนเด็ก ๆ จะมาโชว์ฝีมือทำพิซซ่าด้วยตนเองได้ที่ มิมูราห์ฟาร์ม เปิดให้ปรุงหน้าพิซซ่า นำไปอบเตาถ่านเมื่อสุกแล้วกินได้เลย

2. “กิจกรรมถ่ายภาพ” ของกลุ่ม Street Art จันทบูร จังหวัดจันทบุรี

3. “กิจกรรมซีเอสอาร์” ของแต่ละชุมชน เริ่มจาก ชาว “จังหวัดระยอง” จะโชว์การทำซั้งเชือกเป็นกิจกรรมสร้างบ้านให้ปลา กิจกรรมยอดฮิตคืนประโยชน์สู่ท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวในแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก ระยอง พัทยา ชลบุรี จะนิยมรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมทำเพื่อให้ปลาได้วางไข่ขยายพันธุ์ให้ได้รับประทานจำนวนมาก กิจกรรมนี้จะต้องใช้ความอดทนคลี่เชือกก่อนจะทำเป็นซั้ง ส่วนชุมชนทางฝั่ง “อ่าวคุ้งกะเบน” จ.จันทบุรี ก็เตรียมนำเสนอกิจกรรมการทำอีเปะหย่อนลงไปในทะเลเป็นการสร้างบ้านให้หอยได้ขยายพันธุ์ด้วยเช่นกัน

4. “กิจกรรมช้อป-ชิม-แชร์” ตื่นตาตื่นใจกับโซนการท่องเที่ยว ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออก จัดซุ้มโอท็อป 9 จังหวัด ซุ้มอาหารเด่นต่าง ๆ เมนูจานเด็ด นำชื่อเสียงเมืองผลไม้ขึ้นชื่อและอาหารโคตรอร่อยของแต่ละจังหวัดมาปรุงให้ชิมตลอดงาน ทั้ง มะม่วง สับปะรด สละ มะพร้าว เมล่อน และอาหารคาว และอาหารถิ่น กุ้งแม่น้ำเผา ข้าวคลุกพริกเกลือ ก๋วยเตี๋ยวกั้ง หอยจ๊อ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ กุ้งเหยียด รวมทั้งอาหารทะเล และเครื่องจักรสาน แล้วยังมีโซนให้จิวเวอรี่ของจันทบุรี แหล่งหุงพลอยทำให้สีของพลอยมีความสวยงามแตกต่างกัน สามารถเจียระไนแล้วติดบนตัวเรือนเครื่องประดับได้

หรือแวะชมกรรมวิธีที่ลุงทมป้าหลุยเปิดฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมอย่างไรให้กลายเป็น “หอยนางรมยักษ์” เพื่อการเรียนรู้วิถีชาวประมงที่ดำลงใต้ทะเลนำหอยสด ๆ มาให้ชิมถึงในกรุง สนนราคาขายเพียงตัวละ 150 บาท แตกต่างจากกรุงเทพขายราคาตัวละ 300 บาทขึ้นไป

5. กิจกรรม “ช็อปแพกเกจท่องเที่ยว” เส้นทางท่องเที่ยวภาคตะวันออก 9 จังหวัด 12 เส้นทาง ตามตัวอย่าง 2 โปรแกรม ได้แก่

โปรแกรมแรก “ตราด More Fun & Fin” ชวนเที่ยวพื้นราบ เรียนรู้พิพิธภัณฑ์เมืองตราด ก่อนข้ามไปเที่ยวเกาะกูด สนุกสนานกับการดำน้ำ และชมบ้านน้ำเชี่ยว (ตราด) ศูนย์รวมชุมชน 2 ศาสนา พุทธ มุสลิม ใน 3 วัฒนธรรม ไทย จีน อิสลาม จากนั้นก็ไปชิมข้าวเกียบยาหน้ารสชาติไม่เหมือนใคร

โปรแกรมที่ 2 “จันทบุรี” นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว “กิน เที่ยว ช็อป เช็ด” คำว่า เช็ด หมายถึงต้องกินให้หมด เป็นพื้นที่ใหม่ เที่ยวชุมชนเกษตรออร์แกนิกนั่งซาเล้งชมสวนต่าง ๆ ตามฤดูกาล เช่นหน้าทุเรียน เงาะ มังคุด และการเลี้ยงชันรงค์เป็นผึ้งพันธุ์ตัวเล็กเลี้ยงในแบบเฉพาะเป็นตัวผสมเกสรตามสวนผลไม้ สามารถชมชิมความหอมหวานน้ำผึ้งชันรงค์ ที่นี่จะมีลักษณะของ Chef Table โดยชาวบ้านจะทำอาหารกลางสวนชวนชิมมื้อกลางวันกลางสวนผลไม้ และแวะชมตลาดต่าง ๆ อาทิ ตลาดทุบหม้อ มีเมนูขาดไม่ได้ คือก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้งผัดของยายลั้ง จะมาปรากฎตัวปรุงเมนูอาหารถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้ชิมในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย และการทำ D.I.Y.ไปหาพลอยเมืองจันทบุรี

ตลอดการชมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2562” บริเวณโซน ททท.ภาคตะวันออก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการแสดงความสนุกสนาน นำเสนอในรูปแบบ “สวนสนุก” และไฮไลต์ “More Fun Cafe” ร้านขายน้ำผลไม้ปั่น มะพร้าว สละ สับปะรด มะปรี๊ดหรือน้ำส้มจี๊ดรสชาติเปรี้ยวโดนใจ นำมาเป็นส่วนผสมกับกาแฟ ทำเค้กมะปรี๊ด เป็นอีกเสน่ห์ซึ่งแต่ละร้านจะมีสูตรผสมแตกต่างกันไป เมื่อดื่มแล้วจะตื่นตัว สดชื่นทันที

รวมทั้งยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้เข้าร่วมโครงการ “ลด โลก เลอะ” ลดการใช้พลาสติก โฟม หันมาใช้ภาชนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบอกน้ำ ถุงผ้า ถุงกระดาษ ปิ่นโต หากต้องการสนุกกับการลด โลก เลอะ ก็ร่วมสนุกได้เพื่อลุ้นรับอุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้ในงานทาง ททท.ภาคตะวันออกมีความพิเศษเตรียม “ริชแบนด์” สีสันสดใสไว้ให้โดยบรรจุข้อมูลการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกทั้งหมด

ห้ามพลาด ! เข้าร่วมมหกรรมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” เสริมสร้างประสบการณ์ MORE FUN แปลกใหม่ได้ใน ททท.ภาคตะวันออก ระหว่าง 23-27 มกราคม 2562 ที่สวนลุมพินี


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน