นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ให้ความสำคัญ ในการรักษาความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร จึงได้จัดทีมออกตรวจสอบเครื่องชั่งในการรับซื้อสินค้าเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าและสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการปกป้องประโยชน์ของกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างความเป็นธรรมทางการค้า โดยได้ปล่อยขบวนรถสายตรวจตรวจเครื่องชั่งรับซื้อสินค้าเกษตร จำนวน 23 สาย เจ้าหน้าที่ประจำสายตรวจ จำนวน 70 คน ไปที่จุดรับซื้อใน 20 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 12 – 15 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา

ผลจากการตรวจสอบเครื่องชั่งและเครื่องวัดพืชไร่ในพื้นที่ 20 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 526 แห่ง เครื่องชั่ง 643 เครื่อง พบว่ามีเครื่องชั่งถูกต้อง 580 เครื่อง ผิด 63 เครื่อง จึงได้ดำเนินการทำเครื่องหมายห้ามใช้ จำนวน 13 เครื่อง ยึดเครื่องชั่ง จำนวน 10 เครื่อง และดำเนินคดี 40 ราย โดยเปรียบเทียบปรับ จำนวน 39 ราย ฐานความผิด ตามมาตรา 25 วรรคหนึ่ง (ไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง และคำรับรองสิ้นอายุ) รวมค่าเปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงิน 380,000 บาท และส่งพนักงานสอบสวนเพื่อกล่าวโทษ จำนวน 1 ราย ฐานความผิดตามมาตรา 74(3) ทำลายเครื่องหมายคำรับรองของพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในมีความเชื่อมั่นว่าการดำเนินการ ในครั้งนี้ จะทำให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการใช้เครื่องชั่งน้ำหนักซื้อขายสินค้าเกษตรที่มีน้ำหนักครบถ้วนถูกต้อง และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่องในทุกท้องที่ ทั้งนี้ หากเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้เครื่องชั่งในการซื้อขายสินค้าเกษตร สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน