1 เมษายน 2562: AIS Academy เดินหน้าสานต่อการเป็นแกนกลางร่วมภาคเอกชนเพื่อยกระดับองค์ความรู้ เพิ่มความสามารถในการรับมือโลกดิจิทัลเพื่อคนไทยและสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ มุ่งขยายองค์ความรู้ไปสู่ภูมิภาคเพิ่มเติมภายใต้โครงการ “ACADEMY for THAIs: to the Region” รวมทั้ง มุ่งส่งเสริมให้คนไทยนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากงานสัมมนาไปปฏิบัติจริง เพื่อให้คนไทยมีความสามารถสร้างประโยชน์ต่อภาคบุคคลและสังคมประเทศชาติ โดยมุ่งเน้นการแบ่งปันองค์ความรู้จากผู้มีประสบการณ์ให้คนไทยพร้อมวิธีการรับมือการเคลื่อนตัวของดิจิทัลในแง่มุมต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาบุคลากรควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยผลักดันนักสู้สายเลือดใหม่ “The Bloom” ให้นำความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมไทยได้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท
แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา AIS Academy มุ่งเดินหน้าทำงานด้านนี้ ในฐานะภาคเอกชนไทยและการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมไทย
ร่วมเป็นอีกแกนที่รวบรวมภาคเอกชนในการทำงานพัฒนาและผลักดันองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีแห่งอนาคต ให้คนไทยได้เรียนรู้ สร้างความเข้าใจและตื่นตัว เตรียมพร้อมกับกระแส Digital Disruption ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนและสังคมอยู่ตลอดเวลา และจากความสำเร็จของการจัดสัมมนา ACADEMY for THAIs ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินหน้าสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสำหรับคนไทย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากประชาชน ตลอดจนสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เป็นจำนวนมาก และมีหลายภาคส่วน แสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมกันสร้างพื้นที่การเรียนรู้ ต่อยอดไปยังส่วนภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ AIS Academy จึงมีแผนเดินหน้าภารกิจ “คิดเผื่อ”
โดยกระจายองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีด้วยการจัดสัมนา “ACADEMY for THAIs: to the Region” สู่การขยายพื้นที่นอกกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก โดยจะเริ่มจากพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ไปยังกลุ่มประชาชนที่อยู่ในภูมิภาค ตลอดจนนักเรียน นิสิต นักศึกษาบุคลากรภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนที่ให้ความสนใจและมีไลฟ์สไตล์เชื่อมต่อกับโลกในยุคดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา”
นอกจากการกระจายองค์ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่อง Digital Disruption สู่คนไทยในพื้นที่ภูมิภาค เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้คนไทยในวงกว้างมากขึ้นแล้ว AIS Academy ยังส่งเสริมให้คนไทยนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากงานสัมนาไปปฏิบัติจริง ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป
โดย AIS Academy มีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาชน สร้างสรรค์พื้นที่ในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีอย่างถูกวิธี พร้อมนำองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญของเอไอเอส มาร่วมสร้างองค์ความรู้ความพร้อมกระบวนการเรียนรู้ และขณะเดียวกันเป็นแกนกลางรณรงค์ใน 2 เรื่องหลัก ได้แก่
- การปลูกฝังค่านิยมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ (Cyber Wellness) เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต รู้วิธีป้องกันตัวเองในโลกไซเบอร์ สอนให้ตั้งสติก่อนใช้งาน
เลือกอ่านและเลือกดูแต่สิ่งที่มีสาระประโยชน์ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย
และเป็นสุข - การสร้างให้สังคมไทยตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากมลพิษที่เกิดจากขยะอิเล็คทรอนิกส์
(E-Waste) พร้อมวิธีการรับมืออย่างถูกวิธี หวังให้กิจกรรมนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งปันความรู้เพื่อสังคม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ เอไอเอสเชื่อมั่นว่าการเติบโตแต่เพียงผู้เดียวไม่ใช่การสร้างระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็งยั่งยืน
และเกิดประโยชน์แก่ประชาชน เอไอเอส จึงเชิญชวนให้พันธมิตรภาคเอกชนมาร่วมโครงการนี้ด้วยกันในการสร้างความเข้มแข็งของสังคมไทย เพื่อให้สามารถส่งพลังออกไปช่วยขับเคลื่อนพัฒนาสังคมไทยได้
ด้านภายในองค์กรเราก็จะละทิ้งไม่ได้ งานด้านบุคลากรจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องพัฒนาควบคู่ไปด้วย เพื่อให้มีความพร้อมในทุกมิติ ภายในองค์กรเราเปิดโอกาสให้น้องๆ กลุ่มคนรุ่นใหม่ขององค์กร
มีความสามารถที่หลากหลาย จะเป็นกลุ่มที่คิดค้น สร้างโครงการใหม่ๆ ที่นำเอาทักษะความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาและยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทย ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของการขับเคลื่อนธุรกิจ องค์กร ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับการเดินหน้าเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และการเติบโตไปพร้อมกับสังคมไทย
สิ่งที่เรามุ่งหวังเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ตลอดจนโครงการต่างๆ ไม่ได้เป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นความสำเร็จแต่เพียงเฉพาะคนเอไอเอสเท่านั้น แต่เราต้องการสร้างองค์ความรู้เพื่อคนไทยทุกคน เพื่อให้เกิดการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นางสาวกานติมา กล่าวสรุป