GQ THAILAND ประกาศผล GQ MAN 2019 สุภาพบุรุษดูดีมีสไตล์ที่สุดแห่งปีคนที่ 5
ของประเทศไทย โอ๊ตรัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน นักแสดงและนายแบบหล่อครบเครื่องวัย 24 ปี คว้ารางวัลชนะเลิศ พร้อมรับของรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 บาท ในปาร์ตี้สุดชิค “The GQ Gentleman Search 2019” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ Flamenco The Helix ชั้น 9 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ท่ามกลางเหล่าเซเลบริตี้ อาทิ มนาเทศ อันนวัฒน์, ดวงกมล เวปุลละ วาเกนซ่า และไมค์ กิ่งโพยม ฯลฯ ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

เป็นประจำทุกปีที่ GQ THAILAND นิตยสารไลฟ์สไตล์แถวหน้าสำหรับผู้ชายซึ่งไม่เพียงเป็นผู้นำ
ด้านแฟชั่น แต่ยังนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่เฉียบแหลมในทุกแง่มุม ภายใต้การบริหารโดยบริษัท เซเรนดิพิตี้ มีเดีย จำกัด ทำการเฟ้นหาสุภาพบุรุษผู้ดูดีมีสไตล์เป็นตัวแทนผู้ชายที่สะท้อนถึงความเป็น GQ THAILAND โดยปีนี้ได้เปิดโอกาสให้หนุ่มไทยผู้มีความมั่นใจในตัวเองสมัครเข้าร่วมประกวด The GQ Gentleman Search 2019” ก่อนจะทำการคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายมาร่วมกิจกรรมและเปิดให้คนไทยทั้งประเทศร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกสุภาพบุรุษผู้ดูดีมีสไตล์ที่สุดแห่งปีผ่านการโหวตทาง www.gqthailand.com

หลังจากปิดการโหวตไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาและประกาศผู้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย จนกระทั่งการประกวดเดินทางมาถึงเส้นชัย ผู้คว้ารางวัล GQ MAN 2019 คือ โอ๊ต-รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน นักแสดงและนายแบบมากเสน่ห์วัย 24 ปีที่ฝากฝีไม้ลายมือไว้ในละครเรื่อง “สกาวเดือน” ทางช่อง 7 HD ส่วนรางวัล รองชนะเลิศได้แก่ แก้ว-ณัฏฐชัย ชัยมนตรีธนสิน สถาปนิกมาดนิ่งวัย 26 ปี และ บอส-ไปรม์ ชีพอารนัย นักศึกษาปริญญาโทหน้าใสวัย 23 ปี จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์ บรรณาธิการบริหาร GQ THAILAND เผยถึงผลการตัดสินครั้งนี้ว่า “GQ MAN ต้องการผู้ชายที่ครบทั้งรูปร่าง หน้าตา บุคลิกภาพ มีเสน่ห์เฉพาะตัวและอัธยาศัยที่ดี ที่พิเศษไปกว่านั้นคือการประกวด GQ MAN 2019 ในปีนี้ถือการเฉลิมฉลองที่นิตยสาร GQ ไทยแลนด์ก้าวสู่ปีที่ 5 เช่นเดียวกับการจัดประกวดที่ก้าวสู่ปีที่ 5 ปีนี้จึงจัดอย่างพิเศษกว่าทุกปี คือ นอกจากให้หนุ่มๆ ส่งภาพติดแฮชแท็ก GQ 2019 แล้วยังจัดรอบออดิชั่นให้หนุ่ม ๆ กว่า 100 คนที่นอกจากเห็นรูปร่างหน้าตาแล้ว น้อง ๆ ยังได้เข้ามาร่วมพูดคุยแนะนำตัวเองต่อหน้าคณะกรรมการเพื่อให้เห็นถึงทัศนคติ ตัวตน และมุมมองความคิดเห็น ฉายเสน่ห์ในตัวให้คณะกรรมการได้เห็นและคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 คนที่ได้ผ่านเข้ารอบ จากนั้นได้นำทั้ง 10 คนไปทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ ฝึกโยคะ ทำอาหาร ถ่ายแบบ เวิร์คช้อป blend whiskey ในแบบฉบับของตนเองอีกด้วย เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ณ โรงแรม Cape Nidhra หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ทีมงานและน้อง ๆ ได้มีความใกล้ชิดเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันมากขึ้น และยิ่งทำให้เห็นถึงเสน่ห์ของแต่ละหนุ่มที่มีบุคลิก อารมณ์ที่ไม่ซ้ำกัน ถือเป็นสีสันให้กับการจัดการประกวดในปีนี้เป็นอย่างมาก

อีกทั้งยังเปลี่ยนกติกาการโหวตให้ผู้โหวตจากทางบ้านได้เห็นคะแนนการโหวตแบบขึ้นคะแนนให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่มีผู้สนใจร่วมโหวตสุภาพบุรุษผู้ดูดีมีสไตล์แห่งปี ๆ GQ MAN 2019 อย่างเหนือความคาดหมาย และมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ณัฐวุฒิ บอกอีกว่า สำหรับผู้ชนะเลิศไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ที่ดูดีเท่านั้น แต่ต้องเป็นผู้ที่มีทัศนคติที่ดีและมีเสน่ห์เฉพาะตัว มีออร่า มีอารมณ์ขันและเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย เพราะหลังจากได้ตำแหน่งแล้วหนุ่ม ๆ มีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ พร้อมได้ประสบการณ์อีกมากมายในวงการแฟชั่น และวงการอื่น ๆ อีกด้วย

“หนุ่ม GQ ปีที่ผ่านมามีความสามารถที่หลากหลาย เช่น เชฟ พิธีกร นักแสดง นายแบบฯลฯ ถือว่าเป็นความสามารถเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกัน จึงทำให้หนุ่ม GQ เป็นบุคคลที่มีเสน่ห์ และดูดี เช่นน้อง ๆ ผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 3 คน ได้แก่ แก้วณัฎฐชัย หนุ่มนักเรียนนอก แม้เป็นคนพูดน้อยแต่เวลาทำกิจกรรมร่วมกันเขาเป็นหนุ่มที่มีความน่ารักและตลกในตัว ส่วนบอสไบร์ม ลุคคุณหนู น่ารักมีอัธยาศัยที่ดี มีน้ำใจ ส่วนโอ๊ตรัฐธีร์ แม้เขาจะเป็นนักแสดงและมีแฟนคลับ แต่เวลาที่เขาทำงานแล้วเขาให้ใจทำงานอย่างทุ่มเทและเต็มที่ ทำงานด้วยง่ายมากถือเป็นชายหนุ่มที่หล่อแบบครบเครื่องทั้งหน้าตา นิสัย มีบุคลิกภาพที่ดี เข้ากับคนง่าย และมีอัธยาศัยดี อันนี้คือเหตุผลที่ทำให้โอ๊ตชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้

สำหรับประวัติของหนุ่มโอ๊ตรัฐธีร์ GQ MAN 2019 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดง มีความฝันอยากเป็นเบื้องหลังในระดับผู้กำกับ แต่ด้วยความหล่อคมเข้ม จึงนำพาให้เขามาอยู่เบื้องหน้าเป็นนักแสดงแทน และเหตุผลที่ชักพาให้เขาประกวดอีกครั้งคือ การประกวดจะทำให้เขาได้รู้จักกับผู้คน หลากหลายสาขาอาชีพ

โอ๊ตรัฐธีร์ เผยถึงความรู้สึกว่า ไม่คาดคิดว่าจะเป็นผู้ชนะเลิศในวันนี้ เนื่องจากการประกวดครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เขาได้ทำอย่างเต็มที่ และสิ่งทำให้เขาได้ตำแหน่งในวันนี้น่าจะมาจาก คณะกรรมการพิจารณาแล้วว่า เขาน่าจะสามารถทำงานต่อได้ ซึ่งโอ๊ตพูดถ่อมตัวว่า เพื่อนๆ คนอื่น ๆ ก็มีความสมบูรณ์เช่ เดียวกัน แต่เสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ คนอื่น ๆ มักบอกว่า เขาเป็นคนที่พูดคุยด้วยแล้วสนุก “ผมรู้สึกว่า เรื่องหน้าตาเป็นเรื่องมาตรฐานที่คนเราเห็นไม่เหมือนกัน แต่ผมเชื่อเสมอว่าการพูดคุยที่ให้เกียรติคนอื่นอันนี้คือเสน่ห์ที่แท้จริง และผมคิดว่าผมคงมีตรงนั้น“

ส่วนนิยามของการเป็นหนุ่ม GQ MAN 2019 ในมุมมองของโอ๊ตคือ แม้ทุกคนที่เข้าประกวดทั้ง 10 คน
เขารู้สึกว่าแต่ละคนมีคุณภาพที่แตกต่างกัน แต่ในมุมมองของเขา การจะเป็นหนุ่ม GQ MAN 2019 ได้ อันดับแรกคุณต้องรู้คุณค่าของตัวเองก่อน เมื่อเรารู้คุณค่าของตัวเองแล้ว และสามารถนำคุณค่าที่เรามี ไปดูแลคนรอบข้าง รู้ว่าตัวเองเก่งและพัฒนาไปในทางใด และเอื้อประโยชน์ให้ผู้อื่นได้ นั่นและถือว่าเป็น GQ MAN อย่างแท้จริง

“ตอนแรกที่ผมมาประกวดแล้วทีมงานเรียกไปออดิชั่น ผมได้บอกกับคณะกรรมการแล้วว่า จริงๆผมลังเลที่จะเข้ามาประกวด เพราะผมรู้ตัวเองว่าผมเป็นเพอร์เฟคชั้นนิสต์ทุกเรื่อง ผมตั้งใจทำทุกอย่างมาก เพราะผมถูกเลี้ยงดูมาแบบทหารที่ทุกอย่างต้องแป๊ะ แต่ผมเลือกมาประกวดเพราะผมอยากฝึกตัวเองให้ตัดความเป็นคนที่ทำอะไรต้องได้ผลสมบูรณ์แบบออกไป ไม่คาดหวังแต่แค่ทำให้ดีที่สุดแค่นั้นพอ ผมคิดว่าเมื่อเราโตขึ้น เราควรได้เรียนรู้ แก้ไขชีวิตตัวเอง นิสัยที่ผมติดคือเป็นคนคาดหวังว่าผลที่ทำต้องออกมาดี ประสบความสำเร็จ ถ้าเป็นผมคนเดิมที่มา ผมต้องคิดว่า
ต้องชนะๆ ซึ่งพอเราโตขึ้น ประสบการณ์สอนเราว่า คนเราไม่ได้สมหวังทุกอย่าง เราควรเบรกตัวเองออกมาจากนิสัยแบบนี้บ้าง แค่ผมได้เข้ารอบ 10 คนก็เหมือนผมได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง ผมได้เอาตัวเองมารู้จักคนอื่น ส่วนวันนี้ถ้าผมไม่ได้ตำแหน่ง แค่ผมได้มาเจอเพื่อน ๆ เจอพี่ ๆ
แค่นี้พอแล้วครับ

ด้านผู้คว้ารางวัลรองชนะเลิศ แก้ว-ณัฏฐชัย ชัยมนตรีธนสิน สถาปนิกหนุ่มวัย 26 ปี ดีกรีปริญญาตรีคณะสถาปัตยกรรม จากมหาวิทยาลัยโมนาช เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันเขาทำงานทั้งด้านมาร์เก็ตติ้ง และฟรีแลนซ์ อาคิเทค นิยามความเป็นสุภาพบุรุษของเขาคือ ควรให้เกียรติผู้หญิงในฐานะที่ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า

ขณะที่ บอส-ไปรม์ ชีพอารนัย นักศึกษาปริญญาโทหน้าใสวัย 23 ปี จากคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถึงแม้ภายนอกดูขี้เล่นแต่ภายในมีความคิดที่เอาจริงเอาจังกับเรื่องการงาน เขามีทัศนคติเกี่ยวกับการประกวดครั้งนี้ว่า ไม่จำเป็นต้องหล่ออย่างเดียว ควรจะออกมาจากความคิด หรือภายในจิตใจของเรา เปรียบเทียบตัวเองเหมือนกระจก เราต้องการให้คนอื่นมองเราอย่างไร เราทำอะไรกับเขา เราอยากได้อะไรกลับคืนมา เราก็ควรปฎิบัติอย่างนั้นกับผู้อื่น

สำหรับผู้ชนะเลิศตำแหน่ง GQ MAN 2019 ได้รับรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 บาท ประกอบไปด้วยรางวัลพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก CHIVAS , นาฬิกา Tissot Seastar1000 Chronograph มูลค่า 18,700 บาท และห้องพัก Beachfront Pool Villa ที่ Six Senses Ninh Van Bay เวียดนาม 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า รถรับส่งสนามบิน และดินเนอร์ที่ Dining by the Bay รวมถึงบัตรโดยสารไป-กลับกรุงเทพฯ- คัมรัน/ญาจาง ประเทศเวียดนาม สำหรับสองท่าน จากสายการบิน Bangkok Airways และเครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่น Lattissima Touch มูลค่า 16,300 บาท ส่วนรองชนะเลิศอีก 2 ท่าน ได้รับเครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่น Lattissima Touch มูลค่า 16,300 บาท

นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษจากทิสโซต์ แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Tissot Sportman มอบให้กับชายหนุ่มผู้มีบุคลิกลุย ๆ ชอบเล่นกีฬา มีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น คือ หนุ่มเฌอเฌอ
รัตนสุวรรณ ได้รับรางวัล นาฬิกา Tissot Chrono XL มูลค่า 12,600 บาท 1 รางวัล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน