ดร.พรเทพ นิศามณีพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์แผ่นการ์ดพลังงานที่ระบุว่ามีการแผ่รังสีสูงกว่ามาตรฐานถึง 300 เท่า ในส่วนของสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ หรือ สทน. ก็ได้มีการนำการ์ดอีกใบหนึ่งมาตรวจสอบเพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของธาตุที่อยู่ในแผ่นการ์ด ปรากฏว่าผลที่ได้มีความใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ องค์ประกอบของธาตุที่อยู่ในการ์ดมีธาตุกัมมันตรังสีอยู่ 2 ธาตุ คือ ทอเรียม และยูเรเนียม ที่แผ่รังสีออกมาในปริมาณที่สูงกว่าในระดับธรรมชาติ ซึ่งตามปกติสำหรับคนทั่วไป ภายในระยะเวลาหนึ่งปีไม่ควรได้รับปริมาณรังสีเกินกว่า 1 มิลลิซีเวิร์ต หรือ 1 มิลลิซีเวิร์ต/ปี แต่ในการ์ดพลังงานกลับมีระดับรังสีที่แผ่ออกมาสูงถึง 40 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง หรือ 350.4 มิลลิซีเวิร์ต/ปี หรือเทียบเป็น 350 เท่า ของขีดจำกัดที่คนทั่วไปสามารถรับปริมาณรังสีได้ภายใน 1 ปี แต่ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจเพราะปริมาณรังสีที่ระบุนั้นไม่ได้ทำอันตรายอย่างเฉียบพลัน สำหรับประชาชนที่ครอบครองการ์ดดังกล่าวไว้และเกรงว่าจะเกิดอันตราย ขอแนะนำว่าอย่านำไปทิ้งตามสถานที่สาธารณะ หากมีความประสงค์จะทิ้งขอให้ติดต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เป็นผู้รวบรวมจัดเก็บ หากการ์ดนั้นยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ขอให้ประชาชนนำการ์ดไปใส่กล่องพลาสติกหนาๆ แล้วจึงนำส่งให้กับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง แต่หากการ์ดอยู่ในสภาพชำรุด มีการแตกหัก ซึ่งจากการทดสอบของ สทน. แม้จะไม่ปรากฏว่ามีฝุ่นหรือละอองกัมมันตรังสีฟุ้งกระจายออกมา แต่เพื่อความปลอดภัยควรนำการ์ดดังกล่าวบรรจุในถุงซิปล็อคและนำไปใส่กล่องพลาสติกก่อนที่จะจัดส่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้น สทน. จะได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมการ์ดดังกล่าวเพื่อนำไปดำเนินการในขั้นต่อไป ดร.พรเทพ กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “ ขอให้ทุกท่านที่มีการ์ดไว้ในครอบครองอย่านำไปทิ้ง หากไม่ต้องการขอให้รวบรวมเพื่อนำมาส่งให้ สทน. เพื่อนำไปจัดการตามมาตรฐานการจัดการกากกัมมันตรังสีต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน