“ผมทำทูบีฯมาปีนี้เข้าปีที่ 9 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเสพยามาทั้งชีวิต ถ้าผมไม่รู้จักและไม่ได้เข้าร่วมโครงการ TO BE NUMBER ONE ผมอาจไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ คงเข้าไปอยู่ในเรือนจำหรือตามข้างถนน สิ่งที่ได้รับจากโครงการ TO BE NUMBER ONE แปลเป็นคำพูดไม่ได้ โครงการนี้ได้ให้ชีวิตใหม่แก่ผมอย่างแท้จริง ทำให้ผมได้ครอบครัวกลับคืนมา ผมภาคภูมิใจที่ได้ทำโครงการ TO BE NUMBER ONE ความสำเร็จทุกสิ่งทุกอย่าง ถือว่าได้มาเพราะโครงการนี้จริงๆ” นี่คือคำบอกเล่าที่ได้รับการถ่ายทอดจากความรู้สึกของ “คิง” หรือ “ศักดิ์สิทธิ์ ชาวสี่ร้อย”รองประธานชมรม TO BE NUMBER ONE สำนักงานคุมประพฤติ จ.สุพรรณบุรี

ถึงแม้จะเป็นปีแรกที่ทางชมรม TO BE NUMBER ONE สำนักงานคุมประพฤติ จ.สุพรรณบุรีได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 16 ชมรมสังกัดกรมคุมประพฤติ ที่เข้าร่วมประกวดผลงานชมรม TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2562 แต่ก็สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE ในสำนักงานคุมประพฤติมาได้สำเร็จ

นายสุกิจ ศิริภาณุรักษ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุพรรณบุรี เล่าถึงที่มาของการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ในสำนักงานคุมประพฤติ จ.สุพรรณบุรีว่า ชมรม TO BE NUMBER ONE สำนักงานคุมประพฤติจ.สุพรรณบุรี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 ดำเนินงานภายใต้แนวทางพระราชดำรัสของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ พวกเราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการนำโครงการTO BE NUMBER ONE มาใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการดูแลแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อการคืนคนดีสู่สังคม ทางชมรมฯมีการกำหนดทิศทางและแผนการพัฒนาสมาชิกที่ยั่งยืนและต่อเนื่อง โดยใช้หลัก 4 T หรือ SMART TO BE 4.0 ประกอบด้วย 1. TARGET “เป้าหมาย” ให้คณะกรรมการดำเนินงานกำหนดเป้าหมายและทิศทางในการดำเนินงานของชมรมอย่างชัดเจน เพื่อให้สมาชิกชมรมฯ มีแนวทางในการดำเนินงานและเป้าหมาย พร้อมที่จะเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง เป็นแรงจูงใจให้สมาชิกมีความหวังและเกิดพลังในการดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข และไม่หวนกลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษอีก 2.TALENT “พรสวรรค์ ความสามารถ” เป็นการค้นหาหรือดึงพรสวรรค์ ความสามารถของสมาชิกชมรมฯออกมา เพื่อถ่ายทอดหรือแสดงให้ผู้อื่นเห็น ซึ่งจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจและตระหนักถึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวเอง และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ภายใต้สโลแกน “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” 3. TRAINING “การถ่ายทอด สอนงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้” คือ การให้คณะกรรมการดำเนินงานรุ่นพี่ ถ่ายทอดองค์ความรู้และสอนวิธีการดำเนินงานของชมรมฯให้กับรุ่นน้อง เพื่อให้การดำเนินงานของชมรมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการจากรุ่นสู่รุ่น 4. TEAM “ทีมงาน” สมาชิกทุกคนจะต้องรวมตัวกันในการทำงานเป็นทีมงาน เพื่อให้เกิดพลังในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มแข็ง เพราะการดำเนินงานของชมรมฯไม่สามารถขับเคลื่อนหรือพัฒนาได้ หากขาดความสามัคคี และความร่วมมือของสมาชิกในชมรมฯ

“เมื่อผู้กระทำผิดคดียาเสพติดเข้ามาแล้ว ก็จะเข้าสู่ระบบการคุมประพฤติ เราจะให้สมัครสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE ก่อนแล้วค่อยมาคัดเลือกผู้ที่มี Talent เราจะยึดหลัก 4 T เนื่องจากการคุมประพฤติค่อนข้างดึงคนได้ยาก พอพ้นระยะเวลาคุมประพฤติก็จะหายกันไปไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรม เราจึงต้องคิดหาวิธี เช่น การจ้างงานให้เป็นแกนนำ เวลามีการจัดกิจกรรมก็จะดึงมาช่วย เป็นวิทยากรเพื่อร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ พยายามติดต่อและกระตุ้นให้เห็นคุณค่าในตัวเอง”

“คิง”หรือ “นายศักดิ์สิทธิ์ ชาวสี่ร้อย” รองประธานชมรมทูบีนัมเบอร์วัน สำนักงานคุมประพฤติ จ.สุพรรณบุรี บอกว่า พวกเราสมัครใจมาเข้าร่วมชมรม TO BE NUMBER ONE กิจกรรมหลักๆในชมรมของเรา ส่วนใหญ่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรง ซึ่งจะมีโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับสำนักงานคุมประพฤติ เช่น โครงการใครติดยายกมือขึ้น พี่ทูบีสอนน้อง โครงการป้องกันการเสพซ้ำ เราจะใช้ตัวเองเป็นตัวอย่างหรือใช้ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมา บอกรุ่นน้องเพื่อชี้ให้เห็นโทษของยาเสพติด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเด่นอีก เช่นโครงการครอบครัวร่วมใจต้านภัยยาเสพติด โครงการค่ายก้าวใหม่ โครงการค่ายจริยธรรม โครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤตินิสัย และโครงการเสริมอาชีพ เช่น สอนทำปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับสมาชิกส่วนหลัก 4 T หรือ SMART TO BE 4.0 เป็นหลักที่เรายึดเพื่อใช้ในการทำงาน เพื่อสร้างและพัฒนาสมาชิกให้มีความยั่งยืน ยกตัวอย่างเช่น มีคนเข้ามาร่วมกิจกรรมกับเราก็จะดูว่ามีความสามารถอะไร ชื่นชอบอะไร เราจะส่งเสริมในความชอบนั้นเพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน